สมชาย

สวัสดีครับ พี่ๆ คงเห็นผมแถวบ้านหลังโต ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์ ผมได้ยินเขาเรียกที่นี่ว่า “เขาใหญ่ ” ผมไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้ แต่จะชื่ออะไรก็ช่าง เพราะผมรู้สึกว่าที่นี่เหมือนสวรรค์ ผมอยากไปที่ไหนก็ได้ที่ผมอยากไป มันเป็นโลกใหม่ของผมจริงๆนะ บ้านอะไรก็ไม่รู้ใหญ่โตจนไม่เห็นจุดสิ้นสุดของท้องฟ้า มีที่ให้ผมได้บินเล่นไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เหมือนบ้านที่ผมโตมา บ้านหลังนั้นเล็กนิดเดียว และก็ไม่มีที่ทุ่งกว้างๆ แบบนี้ด้วย ผมอยากจะออกไปทักทายเพื่อนๆ ข้างนอกก็ไม่ได้ อ้อ! เล่ามาตั้งนาน ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลย อันที่จริงผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจริงๆ แล้วผมชื่ออะไร เพราะตอนเกิดมาคนรอบๆ ตัวผมต่างก็เรียกผมว่า บ๊อบบี๊ ฟังแล้วดูเท่ดีใช่ไหมล่ะครับ แต่ตอนนี้พี่ๆ ที่มาเยี่ยมผมที่บ้านหลังใหม่นี้มักจะเรียกผมว่า “สมชาย” ไม่ว่าจะชื่อไหนผมก็ชอบทั้งนั้นแหละครับ เพราะผมไม่เห็นเพื่อนๆ ที่นี่ ที่หน้าตาเหมือนผม เขามีชื่อกันเลย ผมเลยคิดว่าผมเป็นคนพิเศษที่สุด และพี่ๆ ก็คงจะรักผม ผมเลยเป็นคนเดียวที่มีชื่อsomchaiyผมย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่นี้แบบงงๆ ไม่มีใครถามผมเลยว่าผมอยากจะมาหรือเปล่า แต่ในตอนนั้นผมก็ว่าผมคิดถูก ทำไมน่ะเหรอครับ ก็วันที่ผมมาถึงที่นี่ครั้งแรกมันเหมือนผมกำลังฝันอยู่เลย ก็คิดดูสิครับ บ้านเก่าน่ะแคบก็แคบ แถมต้นไม้ก็รูปร่างประหลาดๆ เป็นกล่องยาวๆ สี่เหลี่ยมเต็มไปหมด อากาศร้อนก็แทรกไปในขนทุกเส้นของผม ผมเข้าใจมาโดยตลอดว่า ต้นไม้ ป่า และท้องฟ้า นั้นเป็นเพียงโลกจินตนาการ หรือไม่ก็มีให้ดูแค่ในสารานุกรม สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แต่อยู่ๆ วันหนึ่ง ผมก็ได้สัมผัสกับลุงต้นไม้ใจดีที่ให้ผลไม้อร่อยๆ ผมกินทุกวันเลย (แม้ว่ามันจะแปลกไปจากอาหารที่ผมเคยกินก็เถอะ) คุณป่าเขาใหญ่ที่กอดผมทุกคืนตอนผมหนาว และพี่ท้องฟ้าที่อนุญาตให้ผมบินเล่นได้ตามใจชอบ อย่าเพิ่งคิดว่าผมกำลังเริงร่ากับสวรรค์แห่งนี้นะครับ ตอนแรกน่ะใช่ ผมมีความสุขกับอิสระที่ได้มา แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

เดือนแรกผมก็สุขสำราญบานใจกับบ้านใหม่หลังใหญ่นี้ แต่พอเริ่มขึ้นเดือนที่สอง สาม สี่ ผมรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยวและเหงาเศร้าอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ แม้ว่าจะมีลุงต้นไม้ ป้าต้นไม้ คุณป่าเขาใหญ่และพี่ท้องฟ้าที่เมตตาผม แต่ผู้คนที่นี่ก็มองผมด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับผมแตกต่างจากพวกเขามากมายนักแหละ พวกเขาเข้ามาดูผมใกล้ๆ ทำหน้าประหลาดๆ ใส่ผม แล้วก็จากไปด้วยสายตาดูถูก บ้างก็ซุบซิบอะไรไม่รู้ แต่ผมว่าเขาต้องพูดถึงผมไม่ดีแน่ๆ โดยเฉพาะตอนที่มีคนเอาขนม ไม่ก็ผลไม้อร่อยๆมาให้ผมกิน ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมทำอะไรผิดแต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วคนอื่นเขากินอะไรกัน ทำไมเขาไม่มีคนเอาอาหารมาให้แบบผมเลย ผมได้แต่มองพวกเขาผ่านไป ผ่านมา ไม่มีใครอยากจะเข้ามาทักผมเลย ถ้าพี่ๆ อยากรู้ว่าผมเหงามากแค่ไหน ก็ลองนับใบไม้ที่อยู่รอบๆตัวผมดูเถิดครับ ผมรู้สึกโดดเดี่ยวราวกับว่ามีผมคนเดียวบนจักรวาลที่กว้างใหญ่นี้ พี่ฝนก็ตกลงมาซ้ำเติมให้ผมหนาวสุดขั้วหัวใจ ผมเริ่มคิดถึงบ้านที่ผมโตมาแล้วสิ คิดถึงน้องหนูที่เข้ามาทักผมทุกเย็นที่เธอกลับมาจากโรงเรียน คิดถึงเสียงรถมอเตอร์ไซค์ในป่ากล่องที่คำรามใส่ผมทุกวัน คิดถึงคุณลุงใจดีเจ้านายของผมที่เอาอาหารอร่อยๆ ดีๆ มาให้ผมกินอิ่มจนพุงโตทั้งวัน คิดถึงความอาทรห่วงใยของทุกๆ คนที่อยู่รอบตัวผม ทุกคนล้วนดีกับผม แต่ทำไมพวกเขาถึงทอดทิ้งให้ต้องเผชิญกับความเหงา ความหิวและความหนาวอยู่คนเดียวแบบนี้ล่ะครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปบ้านแห่งความสุขของผมหลังนั้นได้ยังไง
หลังจากต้องวิ่งเล่นอยู่คนเดียวมาหลายวัน วันนี้หัวใจของผมมันเริงร่าจนแทบจะออกมาบินเล่นบนsomchaiy1ท้องฟ้าเป็นเพื่อนผมแล้วเชียว เมื่อเห็นขบวนรถของพี่ๆ กลุ่มหนึ่งเข้ามา วันนี้ผมจะมีเพื่อนแล้ว เย้! และก็คงมีขนมอร่อยๆ ให้ผมกินด้วย ก็ผมเริ่มเบื่อลูกไม้แถวนี้แล้วนี่ครับ อยากกินอย่างอื่นมั่งแต่ก็ไม่รู้จะไปหาได้ที่ไหน พี่ๆ ลงมาจากรถแล้ว เดี๋ยวผมต้องออกไปโชว์ตัวสักหน่อย ฟิ้ววววววววว…… ผมหล่อไหมครับบบบบบบ…. พี่ๆ เขามองผมใหญ่เลย ชี้ไม้ชี้มือให้เพื่อนดูด้วย ผมก็ยืนด้วยท่าที่ผมคิดว่าเท่สุดแล้วล่ะครับ ผมย่องไปแอบดูน้องๆ ที่มาพัก บางคนก็แกล้งเอาไม้แหย่ผม พอผมเอาปากงับอยากเล่นด้วย พวกน้องๆเขา ก็รีบวิ่งหนีไป ผมอยากบอกว่าผมไม่ทำร้ายเขาหรอก แค่อยากมาเล่นด้วยต่างหากเล่าครับ แต่น้องๆ เขาคงไม่ได้ยิน เฮ่อ! ผมก็แค่อยากมีเพื่อน หลังจากที่ต้องอยู่คนเดียวมาหลายอาทิตย์ พอมีพี่ๆ น้องๆ มากันเยอะๆ แบบนี้ผมจะออกมาโชว์ตัวเรื่อยเลยล่ะ มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมยังมีคนรัก มีคนห่วงใยผมอยู่ ผมได้ยินเสียงพวกพี่ๆ น้องๆ ร้องเพลงกันสนุกสนานทั้งวันเลย คุณป้าที่ครัวก็เอาผลไม้อร่อยๆ ให้ผมกิน พอพี่พระอาทิตย์ใกล้จะตอกบัตรกลับบ้าน พวกเขาก็ออกมาข้างนอกกันแล้วก็เริ่มร้องเพลงที่ผมเคยได้ยินบ่อยตอนอยู่บ้านเก่า เขาร้องเพลงนี้กันวันละสองครั้ง เช้ากับเย็น วันนี้ผมก็ได้ร่วมร้องเพลงกับพวกเขาด้วยครับ ผมคงร้องเพลงได้เพราะกว่าชาวบ้านเขาไปหน่อย ดูเหมือนทุกคนจะมองผมแล้วอมยิ้มชอบใจกัน ผมเลยร้องเสียงดังขึ้นอีกจนจบเพลงเล้ย ผมเก่งไหมล่ะครับ
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ผมได้กินอิ่มนอนหลับสบาย ก็เพราะความเมตตาของป้าๆ และพี่ๆ ในครัว ผมเห็นเขาเอาอาหารน่าตาน่ากินวางไว้บนเก้าอี้แล้วก็จุดอะไรไม่รู้ควันโขมงเชียว พอผมเข้าไปใกล้ เจ้าควันนั่นก็ทำเอาผมแสบตา ผมก็เลยรอจนควันหมดก่อนแล้วค่อยย่อง ย่อง ย่อง ไปหยิบขึ้นมา แต่ทันใดนั้น ลุงหนวดรุงรังก็เอาไม้อันยาวเดินเข้ามาทำท่าจะตีผม ผมตกใจ รีบหนีไป พอเขาเผลอ ผมก็ย่อง ย่อง ย่องมาอีก คุณป้าที่ครัวคงสงสารผม แกเลยให้ขนมผมกินชิ้นหนึ่ง ไม่อยากบอกเลยว่าอร่อยมั๊กมากกกกก… ทำไมลุงหนวดเขาต้องตีผมด้วยล่ะครับ ก็ผมหิวนี่นา พอลูกไม้หมด ผมก็ต้องทนหิวทุกทีเลย จากที่เคยกินอิ่ม นอนหลับทุกมื้อ ผมก็ต้องพยายามหากินเอง ผมต้องใช้ความพยายามมากเพื่อให้ท้องอิ่มแต่ละมื้อ บางครั้งผมก็หิวไส้กิ่วจนนอนหลับไป ผมทำอะไรไม่ดีเหรอครับ ทำไมเจ้านายถึงทอดทิ้งผมให้ลำบากยากแค้นเพียงลำพังอย่างนี้ เจ้านายจะคิดถึงผมไหม น้องหนูจะทักทายใครเมื่อไม่มีผมอยู่ที่บ้าน ทุกคนคิดถึงผมบ้างไหมครับ เขาจะรู้ไหมว่าผมคิดถึงพวกเขาเหลือเกิน ผมอยากกลับบ้าน…..พรุ่งนี้น้องๆ ก็ต้องกลับบ้านกันแล้ว นี่ผมต้องกลับไปอยู่ในความเหงาอีกแล้วเหรอครับ แค่คิดน้ำตาผมก็พานจะไหล พี่ครับอยู่เป็นเพื่อนผมก่อนไม่ได้เหรอ ผมยังไม่หายเหงาเลย เช้านี้ผมก็ออกไปร้องเพลงชาติกับพี่ๆ น้องๆ ตามปกติ ผมแอบไปดูว่าจะมีใครอยากอยู่เป็นเพื่อนเล่นผมก่อนหรือเปล่า ทุกครั้งพี่ๆ น้องๆ มาแล้วกลับไป ทิ้งแต่ความว่างเปล่าไว้ให้ผม รู้ไหมว่าแค่เสียงหัวเราะของพวกพี่ก็ทำให้ผมหายเหงาแล้วล่ะครับ สัญญานะครับว่าจะกลับมาเยี่ยมผมอีก อย่าปล่อยให้ผมเหงานานๆ นะครับ แต่ถ้ารู้จักเจ้านายของผม ฝากบอกเจ้านายด้วยนะครับ ว่าผมยังรักและรอคอยที่จะมอบรอยยิ้มแก่พวกเขา ผมไม่โกรธเจ้านายเลยทิ้งผมให้เดียวดายอย่างนี้ ผมเป็นเด็กดีแล้วน้า ให้ผมกลับบ้านได้ไหมครับ

 

กันยายน ๕๓ ….มอร์

ปิดการแสดงความเห็น