“เทียนหนึ่งถูกจุดที่นี่ เทียนนี้ถูกจุดลุกไสว เทียนนี้ถูกจุดที่ใจ เปลวไฟถูกจุดขึ้นมา ….”
เสียงเพลงที่ร้องออกมาจากหัวใจส่งสารจากพี่ถึงน้อง ประสานสอดรับเสียงฝนพรำดังก้องไปทั่วบริเวณบ้านพักรับรองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง แสงเทียนเบื้องหน้าส่องไสวเรืองรองท่ามกลางความมืดมิดนั้นเกิดมาจากไฟดวงน้อย จากเทียนเพียงเล่มเดียวที่ถูกจุดต่อๆ กัน จากหนึ่งเล่มเป็นสอง สาม สี่…จนแสงเทียนแหวกม่านแห่งความมืด เผยให้เห็นสายตามุ่งมั่นของเยาวชน “รักษ์ทีลอซู” ทุกคนที่ถูกจุดพลังใจแห่งงานอนุรักษ์เพื่อบ้านเกิดของตน ก่อนบรรยากาศที่อวลไปด้วยความรักและความศรัทธาในพลังแห่งธรรมชาตินี้จะเกิดขึ้น ด้วยน้ำใจที่เหล่าพี่วิทยากรตั้งใจมอบให้ ก่อเกิดเป็นสายธารแห่งความรู้หลากหลายที่ไหลหลั่งสู่น้องๆ ธารแห่งความรู้ ความรักและน้ำใจเหล่านั้นได้กลายเป็นธารน้ำใหญ่ที่จะช่วยโอบอุ้มโลกนี้ต่อไปดังเช่นความยิ่งใหญ่ของทีลอซู
ชีวิตมนุษย์นั้นสัมพันธ์กับน้ำจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้เพราะในร่างกายเราก็เต็มไปด้วยน้ำ อยู่ในท้องแม่เราก็ถูกโอบอุ้มด้วยน้ำคร่ำ มีชีวิตอยู่ได้ก็ต้องกินน้ำ มีพืชผักกินก็ต้องมีน้ำไว้รด ดังนั้นกิจกรรมแรกที่เด็กๆ ได้สัมผัสคือการล่องแก่ง ซึ่งเป็นโอกาสที่น้องๆ เยาวชนได้กลับไปมองสายสัมพันธ์ชีวิตที่มีร่วมกับสายน้ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อเด็กๆพร้อม เรือยางสีสดใสก็ถูกปล่อยไหลไปตามกระแสน้ำเย็นชื่นของฤดูฝน ฟ้าพรมฝนปรอยปรายในตอนเช้าเสมือนคำอวยพรให้ภารกิจครั้งนี้ดำเนินได้อย่างราบรื่นและก่อให้เกิดเมล็ดพันธุ์ใหม่ที่จะเติบโตช่วยรักษาป่าให้อยู่คู่คนอุ้มผางต่อไป ระหว่างทางที่ล่องแก่ง เด็กๆได้เรียนรู้และกลายเป็น “นักสืบสายน้ำ” กันถ้วนหน้า ดูทุกคนจะตื่นเต้นกับการเก็บตัวอย่างน้ำและรอคอยแทบไม่ไหวที่จะได้ส่องดูว่ามีสิ่งมีชีวิตอะไรบ้างที่พวกเขาตักเก็บมาใน
กล่องสี่เหลี่ยมใบใส เรือยางนำพาเมล็ดพันธุ์มาหยุดอยู่ที่ผาเลือด จากนั้นสายลมแห่งความหวังดีจากพี่ๆ ไม่ว่าจะเป็นพี่เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พี่เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสืบ พี่จากมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยภูเบศร คณะครูอาจารย์ รวมทั้งผู้ใหญ่ในอุ้มผางก็ช่วยกันหอบเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ไปตกยังป่าแห่งชีวิตรอเพาะพันธุ์เพื่อเป็นไม้ที่แข็งแรงมีพลังพิทักษ์บ้านของพวกเขา เมื่อถึงยังแปลงเพาะเมล็ด ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เหล่าพี่ๆ วิทยากรก็เริ่มใส่ปุ๋ยแห่งความรู้ให้แก่เด็กด้วยกิจกรรมนักสืบสายน้ำ แว่นขยายถูกกำอยู่ในมือน้อยของหมอน้ำที่รอตรวจสุขภาพของน้ำที่ตัวเองเก็บมา สิ่งมีชีวิตนอนลอยคอรอหมออยู่ในกล่องเก็บตัวอย่าง จากนั้นเด็กก็ได้เรียนรู้การสำรวจตรวจสอบชนิดและจำนวนของสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่พวกเขาอาจจะไม่เคยสนใจความมีตัวตนของมัน แต่ในวันนี้พวกเขาคงจะเริ่มเล็งเห็น
ประโยชน์ของสัตว์ตัวเล็กๆเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นชีปะขาว แมลงเกาะหิน แมลงช้าง ตัวอ่อนแมลงปอหรือกุ้งจิ๋ว ที่ว่ายน้ำเป็นเพื่อนกับเด็กๆ ทุกครั้งที่ลงเล่นน้ำโดยพวกเขาไม่เคยรู้ตัวมานานแสนนาน แต่จากค่ายนี้พวกเขาก็จะกลายเป็นเพื่อนกันและจะช่วยดูแลรักษาซึ่งกันและกันตลอดไป เพื่อนสัตว์ตัวจิ๋วฝากมาบอกเด็กๆ ว่า ตราบใดที่เพื่อนตัวจิ๋วเหล่านี้ยังออกมาเล่นน้ำรับแสงแดดได้อยู่ เพื่อนมนุษย์ของพวกเขาก็ยังสามารถมีแหล่งน้ำสะอาดไว้กิน ไว้ใช้ต่อไป หากเด็กๆ ได้ยินแล้วช่วยตอบรับด้วยนะจ๊ะ หลังจากได้รับปุ๋ยแล้วต้นไม้จะงอกงามไม่ได้เลยหากขาดความสุข ใช่แล้ว เกมส์สนุกๆ มาพร้อมกับพี่อ๋อพุงกลมและพี่ๆ กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากเกมส์ต่างๆ ช่วยบ่มเพาะให้น้องๆ งอกงามยิ่งขึ้น เมล็ดพันธุ์เริ่มงอกแล้ว ^^
แสงตะวันเปล่งแสงลอดฟ้าชุ่มฉ่ำของเช้าวันใหม่ปลุกเด็กๆ ให้ลุกจากที่นอน เช้านี้พวกเขาจะได้ไปพบกับสาวงามขี้อาย ตำนานแห่งอุ้มผาง เธอหลบเลี่ยงที่จะโชว์ตัวต่อผู้คนทุกครั้งที่ยามวสันตฤดูย่างเข้ามา ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะเป็นช่วงที่ความงามของเธอผลิสะพรั่งเป็นดอกไม้งามแห่งป่าตะวันตกมากที่สุดยังไงล่ะ ก่อนเด็กๆ จะได้รู้จักหญิงงามแห่งอุ้มผางพวกเขาจะต้องฝ่าผ้าคลุมหน้าที่หญิงสาวปิดเอาไว้ซะก่อน ระหว่างทางที่ผ้าคลุมหน้าสีเขียวชื้นฝนค่อยๆ คลี่ออก พวกเขาก็ได้เรียนและรู้จักพฤกษาพรรณไม้นานาที่ถักทอกันจนเป็นผ้าผืนนี้ ทั้งสมุนไพร ป่าไผ่ ดงกล้วย สายใยชีวิตระหว่างสัตว์ ต้นไม้ สายน้ำ และรู้จักผู้เฒ่านักฆ่าและนักบุญแห่งป่าหรือต้นไทรที่เราคุ้นเคยนั่นเอง ยิ่งเดินเข้าไป ยิ่งเผยให้เห็นความงามของเธอ… ทีลอซู นามที่ขานเรียกโดยชาวกะเหรี่ยง เธอคงจะเลิกอายแล้วเพราะเธอทักทายเราด้วยละอองน้ำเย็นที่ปลิวมาตามลมแตะทักทายที่แก้ม พวกเรามองหาว่าเธออยู่ไหน ยังหรอกเธอยังหลบเราอยู่ในม่านป่านั่น ป้ายบอกว่าเหลืออีก 500 เมตร เราถึงจะได้พบเธอ ก็บอกแล้วว่าเธอขี้อาย
ในที่สุดพวกเราก็เดินมาถึงพี่สาวขี้อาย เพียงแวบแรกที่เธอเผยความงามต่อหน้าผู้คน เธอช่างงดงามสมเป็นตำนานแห่งอุ้มผาง งามด้วยสายน้ำขาวพราวระยิบแม้ต้องแดดที่มีเพียงน้อยนิดก็ตาม สายน้ำที่ตกลงมาจากผาสูงราวหญิงสาวสยายผม เธอดูดุดันด้วยเสียงก้องของสายน้ำที่กระโจนกระทบหิน แต่เธอก็นุ่มนวลและอ่อนโยนในที ละอองน้ำที่พร่างพรมลงมาเหมือนจะโอบกอดเราไว้ให้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนราวแม่ที่มีต่อลูก เด็กๆ จะรู้สึกบ้างไหมว่าเธอยินดีที่เจอพวกเราในครั้งนี้ รู้สึกบ้างไหมว่าเธอมอบความอบอุ่นให้เราแม้ละอองน้ำจะเย็นจับใจ
“ยินดีในน้ำใจที่พวกเธอมีให้อุ้มผางนะ…เมล็ดพันธุ์น้อยรู้ตัวบ้างไหมว่าพวกเธอได้เติบโตขึ้นเป็นต้นกล้าแล้ว” เธอกระซิบแนบละอองน้ำฝากมาบอกน้องๆ ด้วย
เสียงเพลงจากบรรดาพี่นักร้อง นักท่องไพร ดึงกลับมาให้เห็นแสงเทียนวาบวาวบนกระบะกลางวง เทียนน้อยร้อยรวมแสงเกิดเป็นความสว่างไสว ที่มีกำลังพอจะทำให้เหล่ากล้าเยาวชนที่นั่งล้อมวงอยู่นี้ ได้สังเคราะห์เป็นอาหารแห่งความศรัทธา เพื่อเติบโตเป็นไม้ใหญ่ปกป้องแผ่นดินแม่ของพวกเขาต่อไป จากวันแรกจนถึง ณ ขณะนี้เยาวชนต้นกล้าน้อยหลายคนพร้อมที่จะออกไปเติบโตข้างนอกป่า หลังจากได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชาจากพี่ๆ วิทยากรทั้งเรื่องป่า ต้นไม้และสัตว์ พร้อมทั้งฝึกสมาธิจากเกมส์ของ พี่ๆ รักษ์เขาใหญ่ที่ฝึกให้น้องๆ ได้รู้จัก “ช้าๆ ชัดๆ ตั้งใจฟัง” เพื่อเป็นประโยชน์แก่น้องๆ ทั้งการเรียน การใช้ชีวิตประจำวันและพิทักษ์ป่าอันกลายเป็นภารกิจของทุกคนที่ออกไปจากค่ายนี้
เช้าวันสุดท้ายก่อนกล้าไม้เยาวชนจะออกไปงอกงามนอกค่ายแห่งนี้ พี่ๆนักพิทักษ์ป่าต่างก็รดกำลังใจใส่ปุ๋ยแก่เยาวชนต้นกล้าเหล่านี้อีกครั้ง ก่อนกลับเด็กๆ ได้รู้จักคุณประโยชน์ของต้นไม้และสัตว์ป่ามากขึ้นจากฐานการเรียนรู้ที่พี่วิทยากรตั้งใจมอบให้ ทั้งความสำคัญของสัตว์พื้นถิ่นเช่น นกเงือก เต่าปูลู และสมเสร็จ สัตว์ป่าคุ้มครองสัญลักษณ์ประจำป่าอุ้มผาง หรือ พรรณไม้สำคัญๆ เช่น ตะเคียน ไทร ไผ่ ยาง และพืชสมุนไพรที่เพียงเดินออกไปจากห้องประชุมเด็กๆ ก็สามารถพบเจอได้โดยง่าย และต้นไม้ที่สำคัญที่สุดสำหรับป่าตะวันตกก็คือ ปรง ต้นไม้ที่แสดงให้เห็นความอดทน ทรนง หนักแน่นและมั่นคง เนื่องจากต้นปรงเป็นไม้ที่ทนแดดทนร้อนและอากาศแห้งแล้ง พี่ๆ วิทยากรก็แอบหวังเล็กๆ ว่าจะมีน้องที่เป็นกล้าไม้ที่แข็งแกร่งเช่นปรงบ้าง
ภาพสุดท้ายที่เห็นในวันนั้น คือภาพที่เหล่าบรรดากล้าไม้ที่ได้รับการฟูมฟักสมบูรณ์ ถูกบรรทุกออกไปจากค่ายหัวคลอนโคลงเคลงโยกเยกไปตามพื้นถนนที่เต็มไปด้วยหลุมโคลนเคล้าเสียงหัวเราะ นั่นทำให้นึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน จากเมล็ดพันธุ์เล็กๆ เพียงใส่ปุ๋ยรดน้ำในค่ายเพียงไม่กี่วัน พวกเด็กๆ ก็กลายเป็นกล้าไม้ที่แข็งแรง พร้อมจะออกไปเผชิญกับโลกภายนอกเพื่อสั่งสมประสบการณ์ และสักวันหนึ่งในป่าอุ้มผางแห่งนี้คงจะมีไม้งามที่กล้าแกร่งกลับมาดูแล “พี่สาวขี้อาย”และปกป้องผืนป่าอุ้มผาง “บ้าน”ของพวกเขา
คัดสรรโดย … ป้ามอร์