๏ เพราะไร้สาระ โลกจึงเห็นสาระ
หากมุ่ง’เอา’กันแต่สาระ โลกนี้คงสุดจะทน
แง่งแง่ง แง่แง่…เครียดเคร่งจนหน้าขึ้นขน
คงจะบ้าบ่น–จนน้ำลายท่วมพรหม เอย ฯ
Don’t walk infront of me, I may not follow.
Don’t walk behind me, I may not lead.
Walk beside me, And just be my friend.
อัลแบร์ กามูส์(Albert Camus 1913-1960)
นิทานเรื่องงูกับกระต่าย
นิทานยุคใหม่เรื่องหนึ่ง เล่ากันว่า…
กาลครั้งหนึ่ง งูกับกระต่ายอยู่ในป่าเดียวกัน งูเป็นผู้ระรานเข้าไปในโพรงของกระต่าย และจับลูกกระต่ายกินเป็นนิจสิน กระต่ายจึงตกอยู่ในสภาพขมขื่นใจไม่วาย
ในกาลต่อมา เพื่อแสดงว่าเคารพสิทธิเสรีภาพในครอบครัวของกระต่ายงูจึงออกกฎหมายฉบับหนึ่ง แล้วไปแจ้งกับกระต่ายว่า
“จงฟัง ต่อไปนี้หากข้าบ่ได้เคาะประตูบ้าน และบ่ได้รับอนุญาตจากเจ้า ถืออำนาจบุกรุกเข้าไปในโพรงของเจ้าไซร้ เจ้ามีสิทธิที่จะฟ้องร้องข้าได้ !”
จากนั้น งูก็เฝ้าสังเกตท่าทีของกระต่าย และรู้สึกว่าตลอดเวลากระต่ายมิได้สนใจใยดีต่อกฎหมายนัก ทั้งก็ไม่ได้แสดงว่าหมดความไม่ไว้วางใจต่องูเลยงูจึงทดสอบความเชื่อมั่นในกฎหมายของกระต่ายดู
วันหนึ่ง โดยไม่เคาะประตู งูจึงบุกพรวดเข้าไปในโพรงของกระต่าย และขม้ำลูกกระต่ายกินเสียตัวหนึ่ง แล้วกลับออกมานั่งอยู่ปากโพรงคอยกระต่ายออกมาฟ้องร้อง
นานนับนาน กระต่ายก็ไม่ออกจากโพรง งูโกรธจัดขึ้นทุกทีวิ่งเข้าไปในโพรงของกระต่าย แล้วกระหวัดรัดลูกกระต่ายอีกตัวไว้ ก่อนคำรามถามขึ้นว่า
“ไยเจ้าไม่ทำตามกฎหมาย”
“จะให้ข้าทำตามกฎหมายกับใคร และกฎหมายอะไรของท่าน”
“เหตุใดเจ้าไม่ฟ้องร้องเอาล่ะ”
“อพิโธ่ ก็เมื่อกี้คนประพฤติเป็นโจรก็คือท่าน เดี๋ยวนี้คนรักษากฎหมายก็คือ ท่าน กระนี้แล้วจะให้ข้าไปจับโจรตัวไหน และจะให้ข้าไปฟ้องร้องกับใคร”
“ชัดช่า…” งูคำรามลั่น ว่าแล้วก็กลืนลูกกระต่ายเข้าท้องไป ๏
(คัดจาก นสพ.สารเสรี พ.ศ.๒๕๐๐)
[ โลกหนังสือ ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑๑ ส.ค. ๒๕๒๑ หน้า ๖๐ ]
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ไข่รัสเซีย…!!!
โปแลนด์ตกอยู่ในสภาพวิกฤติอย่างรุนแรง เทเล็กซ์ไปถึงโซเวียต
“ต้องการความช่วยเหลือด่วน กำลังอดอยากมาก”
“ส่งไข่มาแล้วสองแสนฟอง” โซเวียตเทเล็กซ์ตอบ
“ส่งมาทางไหน”
“ในกางเกง”
(ริมสวน๒ : ‘คนเดิม’ หน้า๙๑)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เด็ด เด็ก….!!!
“คุณอาจหัวใจวายตายก็ได้ ถ้าคุณตกหลุมรักเร็วเกินไป” -พอล อายุ ๗ ขวบ
“นายกรัฐมนตรีมักจะมีธุระมากเสียจนไม่มีเวลาใช้หัวคิด” -บรูซ อายุ ๘ ขวบ
“ถ้าสวรรค์เป็นที่น่าอยู่จริงๆ ละก้อ ทำไมคนเราถึงโศกเศร้ากันนักเวลาที่มีใครไปที่นั่น” -เจนนิเฟอร์ อายุ ๖ ขวบ
“เพื่อนของฉันอยากหนีออกจากบ้าน แต่เขาไม่รู้จะหนีไปไหน” -ทาร์มิน อายุ ๗ ขวบ
“พ่อแม่หนูรักกันดีเกือบตลอดเวลา แต่พอหนูไปนอนแล้วเค้าก็เถียงกันใหญ่เลย” -แดนนี่ อายุ ๗ ขวบ
“นักการเมืองคือคนที่บอกให้คนอื่นไปทำสงคราม” -แอนโทนี อายุ ๑๓ ขวบ
“เพื่อนผมคนนั้นบอกว่าพ่อผมเป็นซ้าย แต่ไม่จริงสักหน่อย พ่อผมเป็นคน
ขับรถเมล์ต่างหาก” -อเล็กซ์ อายุ ๗ ขวบ
(ใครใคร่อ่าน อ่าน/ต่างประเทศ (จาก Vote For Love รวบรวมโดย Nanette Newman สนพ. Collin แห่ง London) โลกหนังสือ ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๙ มิ.ย. ๒๕๒๒ หน้า ๑๑๑-๑๑๒)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ที่นี่…สมอปูน
วงสนทนา กรึ๊บๆ-กรั๊บๆ-ผิงไฟที่หน้าเต็นท์พี่แสน บนสมอปูน
อาจารย์ปู่เห็นหนุ่มพัน…เดินหน้าตางัวเงียออกมาจากเต็นท์(นึกว่าคงจะไปเปลี่ยนเวรยามเฝ้ากองไฟกลางกับเพื่อนๆ )จึงถามว่า
“ไปไหนล่ะพัน…?”
หนุ่มพัน…งัวเงียตอบ
“ไปเยี่ยวบ่ครับ?…”
อาจารย์ปู่และคนอื่นๆ
“….!!!….”
—แป่ว-ว-ว-ว…
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~