เพลงเพื่อชีวิต… บทเพลงเบาๆ ที่ไม่เคยเงียบหาย

เพลงเพื่อชีวิต… บทเพลงเบาๆ ที่ไม่เคยเงียบหาย

ตอนที่ ๑ สามบทเพลงอมตะ

เพลงรักวัยรุ่น…ส่งเสียงขับขานตามบ้านเรือน ส่งเสียงก้องตามท้องถนน ส่งเสียงดังจากห้างสรรพสินค้า หรือส่งเสียงอู้อยู่ในหูผู้คน เพราะมันถูกเปิดซ้ำมาซ้ำไปในรายการวิทยุ ถูกขอโดยนักฟังผู้มีหัวใจวัยรักอยู่ทุกวันทุกชั่วโมง ซ้ำยังถูกโหวตขึ้นทุกชาร์ตความดังและถูกโหลดจากลูกค้าทุกค่าย จนยึดครองทุกหัวระแหงทุกซอกมุมของสังคม  …แต่เวลาที่สังคมพบปมขัดแย้ง โลกเผชิญทุกข์เข็ญทั้งจากน้ำมือมนุษย์และธรรมชาติ เมื่อสังคมต้องการทางออกจากจุดอับหรือเมื่อต้องการถ่ายทอดความเป็นไปของจุดเล็กๆ ให้โลกได้รับรู้ “บทเพลงเพื่อชีวิต” กลับถูกเลือกมาใช้สื่อโดยไม่เลือกยุคสมัยและความนิยม ทุกวันนี้ มีคนเพียงบางกลุ่มที่ยังฟังเพลงเพื่อชีวิต บางคนฟังเป็นประจำหรือบ้างก็ฟังเพียงบางอารมณ์แต่คนกลุ่มน้อยนี้ก็ยังคงไม่เคยหมดไป บทเพลงก็แบ่งเป็นหลายระดับตั้งแต่บทเพลงเพื่อมวลชน เพื่อสังคม เพื่อธรรมชาติ ไปจนถึงเพื่อชีวิตเจ้าของเพลง เท่านั้นเอง บางเพลงประกอบขึ้นมาจากภาษาและดนตรีที่ลึกซึ้งยากเข้าใจ ต่างกับบางเพลงที่ต้องสนองตลาดจึงโหวกเหวกตื้นเขินให้แหกปากตะเบ็งได้ทั่วทั้งบาง จะเหลือเพลงที่มีคุณค่าที่คงทนต่อกาลเวลา ไม่พึ่งพากระแสความฮิต นำมาใช้ได้ทุกสมัย ผู้ได้รับฟังแม้ไม่ใช่คอเพลงก็ยังเข้าใจเข้าถึงได้เมื่อประกอบในโอกาสที่เหมาะสม

…ในยามที่ท้อแท้ ขอเพียงแค่คนหนึ่งจะคิดถึงและคอยห่วงใย
ในยามที่ชีวิตหม่นหมองร้องไห้ ขอเพียงมีใครปลอบใจสักคน
ในยามที่โลกร้าง ความหวังไม่วาด มันขาดมันหายใครจะช่วยเติม
เพิ่มกำลังใจให้ฉันได้เริ่ม ต่อสู้อีกครั้งบนหนทางใหม่…

คราวน้ำท่วม แผ่นดินไหว เกิดภัยพิบัติต่างๆ เราจะได้ยิน “กำลังใจ” ของวง “โฮป” ถูกเปิดบ่อยครั้งทางโทรทัศน์ เพื่อประกอบภาพทุกขเวทนาของเพื่อนมนุษย์ เชิญชวนให้แสดงความเห็นอกเห็นใจกัน

…กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทานให้ฉันได้ไหม
ให้ชีวิตได้มีแรงใจ ให้ดวงไฟลุกโชนความหวัง
กำลังใจ จากใครหนอ ขอเป็นทานให้ฝันให้ใฝ่
ดั่งหยาดฝนบนฟากฟ้าไกลที่หยาดรินสู่พื้นดินแห้งผาก…

นานครั้ง มีใครสักคนตั้งใจทำสิ่งดีๆ ให้สังคม  พยายามต่อสู้ล้มล้างความไม่ดีต่างๆ ที่เกาะเป็นปลิงดูดเลือดผู้คน หรือเมื่อเผชิญความทุกข์ยากลำเค็ญ พิบัติภัยหายนะทั้งหลายแล้วพยายามลุกขึ้นใหม่ ในการต่อสู้ที่ต้องอดทนต่อความเหนื่อยล้า ท้อแท้สิ้นหวัง ทนแรงเสียดทาน แบกน้ำหนักเพราะสิ่งที่สู้นั้นมักใหญ่เกินตัว จนผ่านวันเวลาพิสูจน์ให้ผู้คนได้รับรู้ บทเพลงจากผู้เอาใจช่วย คอยสนับสนุนคงไม่พ้นเนื้อหาของบทเพลงนี้

…ขอมอบดอกไม้ในสวนนี้เพื่อมวลประชา
จะอยู่แห่งไหนจะใกล้จะไกลจนสุดขอบฟ้า
มอบความหวังดั่งดอกไม้ผลิสดไสวอาณา
เป็นกำลังใจให้คุณ เป็นกำลังใจให้เธอ
เป็นสิ่งเสนอให้คน
…ดวงตะวันทอแสง  มิถอยแรงอัปรา
เป็นเปลวไฟที่ไหม้นาน เป็นสายธารทีชุ่มป่า
เป็นแผ่นฟ้าทานทน…

ท่วงทำนองอ่อนหวานแต่เข้มแข็งถ่ายทอดวิญญาณชาวอาทิตย์อุทัยแบบโอกินาว่า (Okinawa) ออกมาเป็นเพลงชื่อ “ฮานา (Hana)” แปลว่า “ดอกไม้” แต่งโดย “โชกิชิ  กินะ (Shokishi  Kina)” ชาวโอกินาว่าซึ่งเป็นเกาะทางใต้ของญี่ปุ่นผู้รักสงบและห่างไกลการแย่งชิงอำนาจแต่ต้องเผชิญผลของสงครามโลก ปลุกเลือดบูชิโดให้ตื่นมาสู้ชะตากรรมเพื่อสร้างสังคมขึ้นใหม่ และสู้ต่อไปไม่ว่าสิ่งที่เผชิญจะเป็นอะไร บทเพลงนี้ถูกถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอันงดงามในชื่อ “ดอกไม้ให้คุณ” โดยศิลปินแห่งชาติ “สุรชัย จันทิมาธร” หรือน้าหงา คาราวาน ให้กำลังใจกับผู้คนทดแทนคำพูดมากมายโดยจะมอบดอกไม้ให้กันจริงๆ หรือมอบด้วยใจแก่กันก็ได้ เพราะบทเพลงนี้คือดอกไม้ทั้งสวนอยู่แล้ว…

…ขอมอบดอกไม้ในสวน ให้หอมอบอวลสู่ชน
จงสบสิ่งหวังให้สมตั้งใจให้คลายหมองหม่น
ก้าวต่อไปตราบชีวิตสุด ดุจกระแสชล
เป็นกำลังใจให้คุณ เป็นกำลังใจให้เธอ เป็นสิ่งเสนอให้คน…

อีกบทเพลงที่ต้องถดวัยลงไปสู่วัยรุ่นที่พลังกายยังฉายฉาน กลุ่มชนที่มีความ คิดพอพ้นจากการเป็นเหยื่อการปรนเปรอเห่อเหิมทางวัตถุผ่านสินค้าแบรนด์ดัง แล้ว ออกค้นหาความหมายให้ชีวิต แน่นอน.. การแสวงหาสิ่งที่ฝืนกระแสหลักของสังคมย่อมยากลำบาก อันตรายต่อการตกไปลุ่มหลงสิ่งล่ออื่นๆ แต่…ทุกความยากเข็ญย่อมมีรางวัล…

…อย่ากลับคืนคำเมื่อเธอย้ำสัญญา
อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป
ให้เธอหมายมั่นคงแล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร
เดินทางไปอย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น
…มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง
กระจ่างครรลองให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
ให้ดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัลแด่ความฝันอันยิ่งใหญ่  ให้เธอ…

บทเพลงของ “จรัล มโนเพชร” ศิลปินล้านนาที่มอบให้เป็น “รางวัลแด่คนช่างฝัน” ให้คนหนุ่มสาวผู้ออกแสวงหาคำตอบชีวิตผ่านการใช้ชีวิต การออกค่ายอาสาฯ งานสิ่งแวดล้อมหรือการเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อพวกเขาพิสูจน์ว่าการแสวงหานั้นมิใช่เพียงเพื่อเป็นที่ยอมรับการมีตัวตนหรือเพื่อสร้างตัวตนของตนให้ใหญ่ขึ้น แต่หากค้นหาความหมายให้กับบางสิ่งที่พวกเขามีข้อสงสัยตั้งแต่วัยวันที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้พวกเขาสามารถเลือกวิธีหาคำตอบที่ดีกว่าการถูกกรอกความคิดจากผู้อื่นเพียงทางเดียว

…บนทางเดินที่มีขวากหนาม  ถ้าเธอคร้ามถอยไปฉันคงเก้อ
ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ  เพียงตัวเธอไม่หนีไปเสียก่อน
…จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน
จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน
คอยอวยพรให้เธอสมดังหวังได้…นิรันดร์

                        เซโดซา
                  ๑๕กันยายน๒๕๕๔
หมายเหตุ : บทความแสดงมุมมองเกี่ยวกับเพลงเพื่อชีวิตในแง่มุมหนึ่งของคนฟังเพลงคนหนึ่ง ที่น่าสนใจทัศนะหนึ่งของเซโดซา
                  ภาพ จรัล  มโนเพชร,สุรชัย  จันทิมาธร-th.wikipedia.org 
                          โฮป-tantawan006.exteen.com

One thought on “เพลงเพื่อชีวิต… บทเพลงเบาๆ ที่ไม่เคยเงียบหาย