ตำรับยาแก้โรคกษัย ไตพิการ (บันทึกของแผ่นดิน ๑๑)

ตำรับยาแก้โรคกษัย ไตพิการ

…..สมัยก่อนคนไทยทุกภาคจะมีตำรับยาแก้โรคกษัยไตพิการอยู่คู่บ้าน ตำรับยากษัย ยาไต รวมถึงยาที่เกี่ยวข้อง มีอยู่มากมาย บางครั้งอยู่ในรูปของนิทาน หลายตำรับมีการแต่งไว้เป็นคำกลอน ในใบลานอีสานดั้งเดิมนั้นจะมีโรค ‘ฮาน’ ซึ่งมีอาการเช่นเดียวกับกษัยของชาวบ้าน
…..อย่างไรก็ตาม คงต้องเน้นย้ำว่า โรคไตของชาวบ้านกับโรคไตของหมอแผนปัจจุบันมีความหมายที่ต่างกัน โรคไตของชาวบ้านคือ การปวดหลัง ปวดเอว อ่อนเพลียไม่มีแรง ปัสสาวะไม่คล่อง อาการเหล่านี้เชื่อว่าเกิดจากไตไม่แข็งแรง ตำรับยาที่ใช้มีหลายระดับ ตั้งแต่พื้นฐานคือ การขับปัสสาวะ แก้ปวดเมื่อย เป็นยาระบายอ่อนๆ ไปจนถึงอาการที่รุนแรง ซึ่งจะต้องใช้การรักษาแผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนไทยที่เชี่ยวชาญเรื่องกษัยโดยตรง ตำรับยาแก้โรคกษัยไตพิการที่คัดสรรมานี้เป็นตำรับยาพื้นฐานที่ชาวบ้านใช้กันทั่วไป


ตำรับยา
…..ยาต้มแก้กษัย ผอมแห้ง ผอมเหลือง ไอ หอบ หิวโหยหากำลังมีได้ทั้งชายหญิง : ให้เอารางแดง ๑ กระชาย ๑ แห้วหมู ๑ เปลือกตะโกนา ๑ เปลือกมะคำไก่ ๑ รากแจง ๑ ผลสมอไทย ๑ เอาเนื้อมากกว่าสิ่งอื่นๆ นอกนั้นเอาสิ่งละเท่าๆ กัน ต้มรับประทานเช้า เย็นก่อนอาหาร
…..ยาต้มแก้กษัย เหน็บชา : ท่านให้เอาข่าต้น ข่าตาแดง ไพล ขิง กำแพงเจ็ดชั้น จันทน์แดง จันทน์ขาว กระตังใบ ใบระกา ฝักคูน สิ่งละ ๕ ตำลึง เกลือ ดีปลี พริกไทย สิ่งละ ๑ ถ้วย ข้าวเปลือก ๓ หยิบ การบูร ๓ สลึง ต้มกินเช้าเย็น ดีนัก
…..ยาแก้กษัย ไตพิการ : ให้เอาสรรพยาเหล่านี้ เถาวัลย์เปรียง หญ้าเกล็ดหอย เขยตาย ผักเป็ดแดง ขมิ้นเครือ แห้วหมู กำลังทรพี ใบมะกา ๑ กำมือ เหมือดคน ขี้เหล็กทั้ง ๕ คนทา ชุมเห็ดทั้ง ๒ เปล้าน้อย เปล้าใหญ่ ต้นต่อไส้ เหล่านี้ หนักอย่างละ ๔ บาท ใส่หม้อต้มรับทาน เช้า – เย็น
ยาแก้กษัย
…..ขนานที่ ๑ ท่านให้เอาผลมะตูมอ่อน ว่านน้ำ ยาดำ รากบัวหลวง แห้วหมู ใบมะกา ฝักราชพฤกษ์ ทั้ง ๗ สิ่งนี้ หนักสิ่งละ ๑ บาทเท่ากัน เอาก้านสะเดา ๓๓ ก้าน นำมาใส่หม้อดินต้มรับประทาน มีสรรพคุณแก้โรคกษัยทุกชนิดได้ผลชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๒ ท่านให้เอาแก่นแสมสาร แก่นไม้สัก รากสบู่ หรือรากมะเยา (โคราชเรียกสีหลอด) ซังข้าวโพด ทั้ง ๔ อย่างเท่าๆ กันต้มกินต่างน้ำ แก้โรคกษัยดีนัก
แก้โรคกษัย ไตพิการ เป็นยาอายุวัฒนะ :
…..ขนานที่ ๑ ท่านให้เอา เถารางแดง กับ ต้นโด่ไม่รู้ล้ม ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ เอาอย่างละเท่าๆ กัน นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง คั่วไฟให้เหลือง ใช้ชงกับน้ำร้อน รับประทานต่างน้ำชา มีสรรพคุณแก้โรคกษัย แก้อาการขัดเบา ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๒ ท่านให้เอา ต้นกะเม็งทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำ กรองด้วยผ้าขาวบาง ผสมกับน้ำร้อนประมาณครึ่งแก้ว และผสมกับ น้ำผึ้งแท้ ๑ ใน ๓ ส่วนของน้ำร้อน ใช้น้ำยารับประทาน ในวันพระสิ้นเดือน มีสรรพคุณแก้โรคกษัย เป็นยาขับน้ำปัสสาวะ เป็นยาอายุวัฒนะ เคยใช้รักษาได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๓ ท่านให้เอา หัวข่า ๑ แก่นขี้เหล็ก ๑ ใบมะกา ๑ ยาดำ ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาหนักอย่างละเท่าๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาก่อนอาหารเช้า-เย็น วันละ ๒ เวลา มีสรรพคุณแก้โรคกษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล .
…..ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา ใบระกา ๑ กำมือ ฝักคูน (ฝักราชพฤกษ์) ๓ ฝัก ยาดำ หนัก ๑ บาท แก่นขี้เหล็ก หนัก ๑ บาท เมล็ดพันธุ์ผักกาด หนัก ๑ บาท ขมิ้นอ้อย ๗ แว่น ตัวยาทั้ง ๖ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ ๓ ส่วน ต้มเคี่ยวให้เหลือน้ำ ๑ ส่วน ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณแก้โรคกษัยได้ผลดีอย่างชะงัดแล
…..ขนานที่ ๕ ท่านให้เอา ผลมะตูมอ่อน ๑ ว่านน้ำ ๑ ยาดำ ๑ รากบัวหลวง ๑ หัวแห้วหมู ๑ ใบมะกา ๑ ฝักราชพฤกษ์ ๑ ตัวยาทั้ง ๗ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน ก้านสะเดา ๓๓ ก้าน นำตัวยาทั้ง ๘ อย่างนี้มาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทาน มีสรรพคุณแก้โรคกษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๖ ท่านให้เอา งวงตาล ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ แกแล ๑ ชุมเห็ด ๑ แก่นแสมสาร ๑ ใบมะกา ๑ แก่นขี้เหล็ก ๑ ฝาง ๑ แก่นลั่นทม ๑ ฝักคูน ๑ ยาดำ ๑ ดีเกลือ ๑ ตัวยาทั้ง ๑๒ อย่างนี้เอาหนักอย่างละเท่าๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานเวลาเช้า-เย็น มีสรรพคุณแก้โรคกษัยทุกชนิด ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๗ ท่านให้เอา หัวข่า ๕ ส่วน ข้าวกล้องข้าวเหนียวดำ ๒ ส่วน พริกไทยร่อน ๑ ส่วน นำหัวข่ามาหั่นเป็นท่อนๆ ตำพอแหลก ตากแดดให้แห้ง นำเอาข้าวกล้องข้าวเหนียวดำมาคั่วไฟให้สุก นำตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้มาตำเป็นผง ผสมกับ น้ำผึ้งแท้ หรือ ผสมกับ น้ำร้อน ก็ได้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทรา ใช้รับประทานกับ สุรา หรือ น้ำร้อน ก็ได้ เวลาก่อนนอนทุกวัน มีสรรพคุณแก้โรคกษัยกล่อน แก้ปวดท้อง บำรุงกำลัง ทำให้เลือดลมเดินสะดวก เคยใช้รักษาได้ผลดีมาแล้ว
…..ขนานที่ ๘ ท่านให้เอา แก่นขี้เหล็ก ๑ เหง้าสับปะรด ๑ ใบมะกา ๑ เถาคัน ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ หัวข่า ๑ ตัวยาทั้ง ๖ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใส่เกลือทะเล ๑ กำมือ ใช้น้ำยารับประทาน (ถ้าต้องการให้ถ่ายมากๆ ให้ใส่เกลือผสมน้ำยาก่อนรับประทาน) มีสรรพคุณแก้โรคกษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๙ ท่านให้เอา แก่นขี้เหล็ก ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ ข่าสด ๑ ใบมะกา ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๕ ตำลึงเท่ากัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทาน (ถ้าธาตุหนัก คือ ท้องผูก ให้แทรกดีเกลือพอสมควร) มีสรรพคุณแก้โรคกษัย ซึ่งมีอาการเส้นท้องตึง ปวดหลัง มีเหงื่อออกตามมือและเท้า ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๑๐ ท่านให้เอา ต้นหญ้าคาทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) มากพอสมควร นำมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อดินต้มกับน้ำมากพอสมควร ใช้น้ำยาผสมกับ น้ำตาลทรายขาว (พอสมควร) รับประทานครั้งละ ๑ แก้วกาแฟ วันละ ๓ เวลา หลังอาหาร มีสรรพคุณแก้โรคกษัย ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๑๑ ท่านให้เอา รากต้นเหงือกปลาหมอ ๑ รากต้นมะพร้าว ๑ รากต้นหมาก ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ กำมือเท่ากัน นำมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาเช้า กลางวัน เย็น วันละ ๓ เวลา โรคกษัยจะหายไปภายใน ๗ วัน มีสรรพคุณชะงัดนักแล
…..ขนานที่ ๑๒ ท่านให้เอา หัวแห้วหมู ๑ ผักเป็ดแดง ๑ ใบมะคำไก่ ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน ใบชุมเห็ดเทศ ๑๕ ใบ ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาเช้า-เย็น มีสรรพคุณแก้โรคกษัย ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล
…..ยาดองแก้กษัย เลือดลม เป็นยาโบราณ ดีนัก : เอาสรรพยาเหล่านี้ คือ แสมสาร ๔ บาท สะค้าน ๔ บาท ดีปลี ๔ บาท สมอทะเล ๔ บาท สารส้ม ๔ บาท แกแล ๔ บาท ฝาง ๔ บาท ดินประสิว ๒ บาท ๒ สลึง ผักเป็ดแดง ๔ บาท รากมะคำไก่ ๔ บาท เถาวัลย์เปรียง ๔ บาท รากช้าพลู ๔ บาท แก่นขี้เหล็ก ๔ บาท เกลือ ๔ ชามเกาเหลา มะกรูด ๓๓ ลูก รวมต้ม ดองในโอ่ง
…..แก้โรคไต เยี่ยวไม่ปกติ ปวดหลัง ปวดเอว (ตำรับพ่อประกาศ  ใจทัศน์) : รากหวายชะรอย (ทั้งใบทั้งเครือ) ๑ กำมือ รากคันแห้วนกข่อ ๒ ซีก เนื้อมะตูม ๑ ลูก หนอกขม (บัวบกที่มีรสขม) ๑ กำมือ ผมฤๅษี หนวดฤๅษี (ฝอยลม) ๑ หยิบมือ แห้วหมู ๑ กำมือ รากอีเฒ่าล้มลุก (เสี้ยวแดง) ๑ เหง้า รากหางนกขวา ๑ เหง้า (ทั้งใบ ต้น ราก ) แผ่นดินเย็น (ทั้ง ราก ต้น ใบ) ๑ เหง้า เมล็ดฝ้าย ๑ หยิบมือ ต้มใส่น้ำกินก่อนอาหาร ๓ เวลาและก่อนนอน
…..ยากษัยเข้าข้อ : รางแดง รากแจง รากคำไก่ เปลือกตะโกนา สมอไทย กระชาย หัวแห้วหมู ยาทั้งนี้เอาสิ่งละเท่าๆ กัน ต้มรับประทาน วันละ ๒ ครั้ง คือเช้าเย็น แก้เท้าและมือเท้าชา จะหายเป็นปรกติดี
…..ตำรับนี้มีใช้ค่อนข้างแพร่หลาย มีนิทานเล่าไว้ดังนี้
“….ขนานหนึ่งนั้น นายไชยรามัญ อยู่บ้านเชิงราก เป็นโรคกระษัย ป่วยไข้ลำบาก คุมมอญไปมาก ทำอิฐลพบุรี อายุนับได้ ห้าสิบสี่โดยปี ซูบผอมเต็มที่เป็นเกล็ดทั่วไป หิวหอบบอบบาง ไม่อาจเดินไกล ขัดสนจนใจ ไปหาผักฟืน พบพระหนึ่งมา หน้าตาสดชื่น อายุยาวยืน สักแปดสิบไป เดินคล่องเร็วนัก ดังจักรกลไฟ นายไชยตามไล่ เต็มเหนื่อยจึ่งทัน ถึงแล้วกราบไหว้ คุณตาได้อะไร มาทำยาฉัน จึงเดินเร็วนัก ดังจักหมุนหัน จงเมตตาฉัน บอกให้เป็นทาน
…..พระแก่จึ่งว่า กูได้กินยา เจ็ดสิ่งมานาน สักสามปีกว่า กายาอาจหาญ เดินใกล้ได้นาน ไม่เหนื่อยเมื่อยชรา แรงไม่ถอยถด ถึงอดข้าวปลา เพราะได้กินยา เจ็ดสิ่งจงจำ รางแดง กระชาย แห้วหมูทั้งหลาย ตะโกนาเปลือกดำ อีกเปลือกประคำไก่ รากแจงจงจำ สมอไทยดีล้ำ ต้มกินรินไป หรือจักตากแห้ง ทำผงเก็บไว้ น้ำผึ้งรินใส่ ปั้นก้อนกลืนกิน แก้กระษัยผอมแห้ง เกิดแรงกายิน อาหารกวีกิน ไม่เบื่อการงาน ของหนักยกได้ แรงกายอาจหาญ กินไปนานนาน จักหายโรคา
…..นายไชยจำได้ หาย่ามรวมไว้ ได้สมปรารถนา ต้มกินรินไป หายโรคโรคา สามเดือนเขาว่า กายาบริบูรณ์ ผิวหนังเป็นเกล็ด หล่นร่วงหายสูญ แรงกายเพิ่มพูน ของหนักยกลอย เดินหนทางไกล อายุนับได้ หกสิบสี่ไม่ถอย กำลังยังมาก หาบข้าวเดินหยอย เที่ยวหนึ่งไม่น้อย หกสัดพอดี ไปตั้งทำอิฐ อยู่ปฐมเจดีย์ กินมาสามปี ฟันแน่นไม่คลอน ถ้าไม่มีเพื่อน คนเดียวไม่นอน ไม่เป็นโรคกล่อน เหมือนคนสิบแปดปี ผู้เล่านั้นชื่อ พระสุธรรมไมตรี ข้าเขียนตามที่ เขาจดหมายมา นายไชยเป็นที่ สมิงสิทธิเดชา เป็นผู้กินยา หายโรคแรงเจริญ มีผู้ได้ฟัง พลอยพูดสรรเสริญ ยาอื่นห่อนเกิน ดีจริงควรจำ ลอกตัวยาไป ว่าเคยได้ใช้ มีคุณเข้มขำ แต่น้อยสิ่งไป เคยได้หาทำ ยานี้ดีล้ำ จงทำกินเทอญ ”


…..ตำรับยากษัย บำรุงกำลังคู่เมืองสุโขทัย ของพระยารณไชยชาญยุทธ : มะคังแดง เชือกเขาหนัง (เถาวัลย์เปรียง) ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ กระต๋อมไก่ (กำแพงเจ็ดชั้น) รากแจง แสมสาร อย่างเท่าๆ กัน ต้ม ๓ เอา ๑ กินก่อนอาหาร ครั้งละ ครึ่งแก้วเล็ก หรือดองเหล้า ๑ เป๊ก ก่อนอาหาร เช้าเย็น
…..ตำรับนี้เล่ากันว่า พระยารนไชยชาญยุทธ เจ้าเมืองสุโขทัย ปรุงถวายในสมัยรัชกาลที่ ๕ และมีการแต่งไว้เป็นคำกลอนเพื่อให้จดจำง่ายและถ่ายทอดต่อๆ กันมา ดังนี้
…..มะคังแดงกำแพงเพชร………………เลือกที่เจ็ดค้นหาในป่าสูง
เชือกเขาหนังอย่าเอาที่ในกรุง…………กลิ่นไม่ฟุ้งเหมือนที่ป่าศิลาแลง
ยาข้าวเย็นเหนือใต้กระต๋อมไก่แท้…….แก้เส้นแปรเข่าขาและหน้าแข้ง
ถ้าเส้นเสียเพลียมากแทรกรากแจง…..แก้เส้นแพลงพลิกฟื้นกลับคืนดี
…..แสมสารปรากฏที่รสขม…………….แก้เลือดลมมุตกิจและพิษฝี
ยานี้ของพระยารนไชยไทธานี…………ชาวบุรีหมอบ้านนอกบอกตำรา
ข้าอายุเจ็ดสิบสี่เป็นที่สุด……………….ยังมีบุตรเมียสาวเสนอหน้า
มิใช่อวดดีแต่มีฤทธิ์เพราะพิษยา……..ถึงแก่ชราก็ไม่กลัวเรื่องผัวเมีย
…..ยาแก้โรคกษัย ขนานนี้ เช่นบุคคลปัสสาวะสีแดงมีอาการเมื่อยขบขัดปวดในที่ต่างๆ ของร่างกาย เส้นท้องตึงรับประทานอาหารไม่มีรสชาติ ปลายมือปลายเท้าให้มีเหงื่ออ่อนเพลีย อุจจาระไม่เป็นปกติ นอนหลับไม่สนิท ท่านให้ประกอบยารับประทาน ท่านให้เอา
…..หัวแห้วหมู ๖ บาท เปลือกตะโกนา ๖ บาท รากแจง ๖ บาท รางแดง ๖ บาท เถาวัลย์เปรียง ๖ บาท เปลือกมะคำไก่ ๖ บาท หัวกระชายแห้ง ๖ บาท เนื้อสมอไทย ๖ บาท รากขลู่ ๖ บาท
…..ยาทั้ง ๙ นี้ ตากแห้งทำเป็นยาผง ละลายน้ำผึ้งรวงทำเป็นลูกกลอน รับประทานเช้าและเย็น ท่านจะหายโรคภัยดี
…..ยากษัย แก้ปวดหลัง : ท่านให้เอา รากเจตมูลเพลิง ๔ บาท เถาสะค้าน ๖ บาท เหง้าขิงแห้ง ๑๐ บาท รากช้าพลู ๑๒ บาท ดอกดีปลี ๒๐ บาท ลูกจันทน์ ๒ บาท ดอกจันทน์ ๑ บาท ลูกกระวาน ๑ บาท กานพลู ๒ บาท พริกไทยล่อน ๒ บาท ชะเอมเทศ ๒ บาท อบเชยเทศ ๒๒ บาท เกสรทั้งห้า อย่างละ ๑ บาท เถาโคคลาน ๕ บาท กำลังวัวเถลิง ๕ บาท เถาวัลย์เปรียง ๕ บาท เถาพริกไทย ๕ บาท ม้ากระทืบโรง ๕ บาท หัวกระชาย ๕ บาท แก่นแสมสาร ๕ บาท แก่นแสมทะเล ๕ บาท ว่านน้ำ ๒ บาท ไพล ๕ บาท กะทือ ๒ บาท โกฐน้ำเต้า ๕ บาท การบูร ๓ บาท บดเป็นผงละเอียด รับประทาน ครั้งละ ๑ ช้อนกาแฟ ผสมกับสุรา หรือน้ำร้อน ก่อนอาหารเย็น วันละ ๑ ครั้ง จะทำเป็นเม็ด หรือผสมน้ำผึ้งปั้นเป็น ลูกกลอน ก็ได้ รับประทานได้ทั้ง หญิง – ชาย

ปิดการแสดงความเห็น