บันทึกการเดินทาง อุ้มผาง

วันแรกกับการเดินทางไปที่อุ้มผาง จังหวัดตาก เราไปรถกระบะโดยนั่งข้างหลัง บรรยากาศตอนกลางคืนเรานั่งรถผ่านจังหวัดต่างๆ ในเวลากลางคืน ระหว่างนั้นก็มีทั้งนั่งคุยนั่งร้องเพลงและหลับ ตอนผ่านจังหวัดต่างๆ เช่น สระบุรี ลพบุรี กำแพงเพชร นครสวรรค์ อากาศยังไม่หนาวเท่าตอนขึ้นเขาแถมยังโค้งตลอดทางแต่ก็หลับเพราะง่วงมากๆ พวกเราไปถึงตูกะสู คอทเทจ เวลาประมาณ ๗ โมง รู้สึกทั้งง่วงและเหนียวตัวมาก พวกเราก็ได้เข้าพักที่ห้องพัก พออาบน้ำเสร็จก็ลงมาทานอาหารเช้า จากนั้นก็ไปนอนพัก ตื่นมาอีกทีก็บ่ายสองโมงกว่าๆ พวกเราก็ได้ลงมาทานอาหารกลางวัน ตกเย็นก็ไปที่ดอยหัวหมดไปชมวิวธรรมชาติและรับอากาศบริสุทธิ์
วันที่สองของการอยู่ที่จังหวัดตาก พวกเราก็ได้ไปที่น้ำตกทีลอซู ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางนานมากเพราะทางเข้าค่อนข้างลำบากพอถึงน้ำตกทีลอซูเราก็ดีใจเพราะกว่าจะเดินทางเข้ามาได้ ถ่ายรูปพอเป็นพิธีจากนั้นเราก็ลงไปเล่นน้ำ น้ำเย็นมากไม่อยากจะคิดว่าถ้ามาฤดูหนาวจะเย็นกว่านี้ขนาดไหน เล่นได้สักพักพวกเราก็ได้เดินทางกลับ วันที่สองที่อยู่ที่จังหวัดตากเราก็ผ่านไปด้วยดี ทำกิจวัตรเป็นปกติ
วันที่สามแล้วกับการอยู่ที่จังหวัดตาก วันนี้พวกเราก็ได้ไปที่น้ำตกสายรุ้งโดยการล่องแก่ง เราล่องแก่งไปเรื่อยจนน้ำพุร้อน แช่น้ำพุร้อนสบายตัวมากๆ ความรู้สึกตอนมากับตอนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมากเพราะตอนมาโดยทางเรือผ่านทางน้ำแต่ตอนกลับกลับทางถนนลำบากนิดๆ ทางชันพอสมควร ช่วงบ่ายก็ไปล้างศาลเจ้าพ่อพระวอ พอเย็นก็ได้ไปที่ดอยหัวหมดกับพวกพี่ที่มาจากมหาวิทยาลัย วันนี้ขึ้นไปสูงกว่าวันก่อนที่ไปทางชันมากๆ กว่าจะขึ้นได้ เหนื่อยเหมือนกัน ทางขึ้นว่าลำบากแล้วตอนลงนี้สิ ลื่นมาก รองเท้าไม่เป็นใจยอมใจ พอตอนกลางคืนเมื่อยตัวเหมือนจะไม่สบายเลยรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางเข้าหมู่บ้าน
วันที่สี่แล้วกับการอยู่จังหวัดตากและก็เป็นวันแรกในการเดินทางเข้าหมู่บ้าน ทางเข้าไปหมู่บ้านไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ แต่ฝุ่นจากถนนเยอะมาก เต็มเสื้อผ้าเต็มผมไปหมด ขนาดมีแมสปิดปากปิดจมูก เลือดกำเดายังไหลแต่ไหลไม่มากเพราะเป็นภูมิแพ้ฝุ่นอยู่แล้ว เจอฝุ่นขนาดนั้นคิดแล้วก็ปวดจมูก แต่ก็ถึง ศศช. บ้านกรูโบ ที่นั้นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แต่ถามว่าดีไหมบอกเลยว่า “ดีนะ” ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกและได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติและลำธาร มาช่วงเย็นได้ไปสระผมให้น้องที่บ้านกรูโบ แปลกนะแต่ดีเพราะปกติเด็กๆ จะไม่ค่อยปรับตัวหรือสนิทกับคนที่เพิ่งเจอได้เร็ว แต่น้องๆ ที่นี้ สนิทกับพวกเราเร็วมาก มันมีความสุขอีกอย่างนะ ไม่ต้องมีของแพงหรืออะไร ใช้แต่ความจริงใจเข้าหากันและก็อีกอย่างคือ ไม่จำเป็นต้องมีพวกของแพงก็สามารถมีความสุขได้อยู่กับธรรมชาติรอบๆ ตัว ได้รับรอยยิ้มดีๆ ความรักดีๆ ที่ไม่มีการแสแสร้งหรือใส่หน้ากากเข้าหากันเหมือนในสังคมสมัยนี้ เป็นสิ่งที่ดีและอยากจะรักษาไว้เพราะทุกวันสิ่งแบบนี้มักจะน้อยลงทุกวัน
พอเล่นน้ำเสร็จก็ได้มาแจกขนมน้องๆ ได้เล่นกับน้องๆ พอได้เห็นรอยยิ้มความสนุกของน้องๆ ตัวเราก็มีความสุข ทำให้นึกถึงตอนตัวเองเด็กๆ เลย คิดแล้วก็ขำ พอตกกลางคืนก็นั่งดู บุพเพสันนิวาส นั่งดูกันหลายคน ความรู้สึกเหมือนในละครสมัยก่อน มีความสุขไปอีกแบบ
วันที่ห้ากับการอยู่ที่จังหวัดตาก และวันที่สองที่อยู่ในหมู่บ้าน วันนี้ได้เดินทางเอาของไปแจกน้องๆ ที่ ตะละโค่งกับทิปาเก การเดินทางก็จะลำบากนิดหน่อย วันนี้เป็นวันที่ดีวันนึงเพราะได้ฟังทัศนคติและการสอนของคุณครูดอยทำให้ได้รู้ว่าคุณครูบนดอยกับครูในเมืองมีความคิดทัศนคติที่แตกต่างกัน โดยคุณครูดอยจะเน้นเรื่องการใช้ชีวิตมากกว่าบทเรียนหรือเรียกว่าเน้นปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี ในฐานะที่เป็นที่กำลังจะขึ้น ม.๖ และกำลังเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย อยากที่จะบอกว่าอยากให้คุณครูคิดแบบนี้ แต่ยังไงเราก็ต้องตั้งใจเรียนและเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ดี ตกเย็นก็ไปเล่นลำธารกับน้องๆ คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกันพรุ่งนี้ก็กลับแล้วตอนคืนมีกิจกรรมทำร่วมกับน้องๆ และทำของที่ระลึกให้น้อง

ดีใจนะที่ได้เป็นคนเขียนและทำมันด้วยตนเองอาจจะไม่มีค่ามากแต่ก็ทำจากใจพี่นะ GRUBO 61 (ชมพู่)

วันที่หกของการอยู่จังหวัดตากและวันสุดท้ายของการอยู่ที่หมู่บ้านกรูโบ เวลาผ่านไปไวมากเหมือนกับคำที่ว่า ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นาน ขอบคุณสำหรับความสุข ขอบคุณสำหรับมิตรภาพ ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่มอบให้พี่ พี่จะจำไว้ในความทรงจำของพี่ตลอดถ้าพี่มีโอกาสพี่จะมาที่นี้อีก

สุดท้ายนี้ก็อยากจะตอบคำถามพี่อ๋อที่ ถามตอนอยู่ที่ตูกะสู ตอนออกมาจากหมู่บ้านกรูโบ ที่ถามว่าไปแล้วได้อะไร ความรู้สึกอย่างไร ตอนนั้นคิดแต่ไม่รู้จะอธิบายแบบไหน เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งแต่สิ่งที่อยู่ในใจคือมันได้อะไรหลายๆ เช่นความรักความสุขที่น้องมีให้ สอนการใช้ชีวิตขนาดน้องๆ ไม่ได้มีสิ่งของเงินทองมากมายแต่น้องๆ ก็มีความสุขกับสิ่งที่ตนเองมี มีความสุขกับการใช้ชีวิตโดยไม่ดิ้นรน สอนให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้ว โทรศัพท์หรือวัตถุนิยมไม่ได้เป็นทุกอย่างในชีวิตเราสามารถขาดมัน สอนอะไรๆ หลายอย่างที่มีในบทเรียนแต่เราได้สัมผัสมันด้วยตัวเองจริงๆ ขอบคุณพวกพี่กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ที่พามาหาประสบการณ์ชีวิตดีๆ และข้อคิดมากมายในชีวิตประวันที่เราไม่รู้ว่าจะหามาจากไหน ขอบคุณคร้า

น.ส อาทิตยากร การเจน(ชมพู่)
นักเรียนโรงเรียนประจันตราษฏร์บำรุง

ปิดการแสดงความเห็น