วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า – แนน

แนนเตรียมไปเข้าป่า ศุกร์-อาทิตย์ แต่แนนต้องมาเตรียมของวันพฤหัสบดี เอาจริงๆ แนนเคยเดินป่ามาก็หลายครั้งอยู่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนๆ ที่แนนเคยเดิน ถือซะว่าเป็นครั้งแรกแล้วกันเนอะ ถือประสบการณ์ที่น่าประทับใจและพิเศษมากเลยทีเดียว เริ่มจากวันแรก แนนมาเตรียมตัวซื้อของ จัดของ แพ็คกระเป๋าที่ปากช่อง ซึ่งแนนไม่รู้เรื่องเลยว่าจะต้อง เตรียมอะไรบ้าง เพื่อนก็มีส่งข้อมูลมาบ้าง แต่ก็ยังเตรียมไม่ครบอยู่ดี (ซื้อผิดบ้าง เตรียมของผิดบ้าง ฮาๆ) พอแนนมาถึงปากช่อง พี่ๆ ได้พาแนนไปเดินจ่ายตลาด ซื้อพวกอาหารสด และเครื่องปรุง ซึ่งพี่เค้าคล่องมากในการเดินจ่ายตลาด (แนนนี่อายเลยจ้า !!!)

เอาล่ะพอซื้อของเสร็จ ก็ถึงเวลากลับไปแพ็คของใส่กระเป๋า กระเป๋าที่แนนซื้อมานั้นปรากฏว่าใช้ไม่ได้เพราะเล็กเกินไป ฮาๆ พี่ๆ เค้าเลยให้กระเป๋าสำรองมา และพี่ๆ เค้าก็บอกวิธีการแพ็คของใส่กระเป๋า โดยการเอาเสื้อผ้า ถุงนอน ของใช้ส่วนตัวแพ็คใส่ถุงดำ (ของใช้ส่วนตัวของแนนเยอะมาก สบู่ ยาสระผม ครีมนวด โฟมล้างหน้า ที่ล้างเครื่องสำอางค์ สำลี แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และที่สำคัญ กระเป๋าเครื่องสำอางค์ ฮาๆ กระเป๋าตุงมาก เฮ้ย!! ลืมบอก แนนพกที่หนีบผมมาด้วยนะ แต่อย่าพึ่งตกใจไป แนนไม่ได้เอาเข้าป่า มันติดกระเป๋ามาเฉยๆ และก็โดนพี่ๆ ด่าเลยจ้า ฮาๆ) เหตุผลที่ต้องแพ็คของใส่ถุงดำเพื่อกันเปียกนะคะ เผื่อฝนตก พอแพ็คของใช้ส่วนตัวเสร็จ คราวนี้ก็จะเป็น ของส่วนกลาง (หมายถึงของใช้จำพวก ที่ใช้ในการประกอบอาหาร หม้อ ตะหลิว ช้อน จาน และอาหารต่างๆ ) แนนได้แต่นั่งมองพวกพี่ๆ เค้าแพ็คของกัน ซึ่งแนนไม่รู้เรื่องเลย ฮาๆ พี่ๆ เค้าก็เลยให้เอากระเป๋าไปวางรวมกัน และจัดการใส่ของส่วนกลางลงในกระเป๋า (ลืม!! ต้องใส่ในถุงดำนะคะ กันเปียกเหมือนกัน ) พอแพ็คเสร็จปึ้บ ก็ต้องลองสะพายนะคะว่าไหวรึป่าว เอาล่ะ!! ยกกระเป๋า อ่า!! ยังไหวจ้า และก็เตรียมเสร็จเรียบร้อย
พอมาถึงวันศุกร์วันเริ่มต้นของวันสนุกสุขหรรษากันแล้ว แนนตื่นเต้นมากที่จะได้เดินเข้าป่าแบบจริงจัง แนนตื่นเช้ามากก ตื่นก่อนทุกคนเลย (ป่าวหรอก แนนปวดท้อง ฮาๆ) แนนก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ประเด็นคือ จะไปป่าหรือจะไปไหนแนนก็ต้องเป๊ะไว้ก่อนจ้า (หน้าผมจัดเต็ม หนีบผม แต่งหน้า เป๊ะค่า ฮาๆ) พอแต่งตัวเสร็จ ก็เริ่มสะพายกระเป๋า บอกเลยว่าหนักกว่าเมื่อคืนมาก เพราะพี่ๆ เค้าใส่ของเพิ่ม พวกขวดน้ำ ประมาณ ๒ – ๓ ขวด (ไม่เป็นไรสู้เว้ย!! แนนแข็งแรง ฮาๆ) คราวนี้เราก็ออกเดินทางกันจ้า ก็แวะพักกินข้าวเช้ากันและพอกินเสร็จ พวกเราขับรถไปที่หลังวัด (แนนก็จำไม่ได้ละ ว่าชื่อวัดอะไร) พอประมาณเที่ยงกว่าๆ เราก็เริ่มออกเดินป่าแล้วจ้า (แนนสะพายกระเป๋าและห้อยกล้องอยู่ข้างหน้า!! เท่ห์ไปอีก )

 

 

ถึงเวลาเดินเข้าป่าแล้วจ้า พวกเราก็เดินกันไปเรื่อยๆ แรกๆ ก็ยังเดินชิวๆ เส้นทางก็จะเป็นลูกรังทางด้านข้างก็จะเป็นป่า (ฟินไปอีก!!) พวกพี่ๆ เค้าก็จะถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศการเดินป่ากันไปเรื่อยๆ อากาศ ณ ตอนนั้นบอกเลยว่าร้อนมาก (แนนแต่งหน้ามา หมดจ้า ไม่เหลือ)

พอมาถึงที่ๆ หนึ่ง เป็นอะไรที่เกลียดมาก โคลนจ้า (รองเท้าแนนหมดกัน) พวกเราเดินผ่านโคลน ณ ตอนนั้นเส้นทางยังเป็นทางราบนะคะ เดินสบายๆ พวกเราก็เดินไปเรื่อยๆ มีหยุดพกกินน้ำบ้างเป็นระยะๆ คราวนี้แหละเส้นทางโหดแล้ว ต้องเดินขึ้นเขา (เกลียดมาก) ความที่ของที่สะพายอยู่ข้างหลังก็หนัก ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย (แต่ยังสู้นะ!!)


บอกเลยว่าการเดินป่าเป็นสิ่งที่เหนื่อยมาก แนนออกกำลังกายประจำแนนยังไม่เหนื่อยเท่ากับการเดินป่าเลย เราใช้เวลาในการเดินไปถึงจุดหมายประมาณ เกือบๆ ๔ ชั่วโมง เดินไปเรื่อยๆ พักบ้าง บรรยากาศในการเดินถึงมันจะเหนื่อยแต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความตลกและสนุกสนาน คือ เอาจริงๆ แนนก็จะเหมือนเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามารู้จักกับกลุ่มพี่ๆ ที่เดินป่า แนนก็จะโดนแกล้งบ่อยมาก (ฉายาของแนน คือ น้องแน่นนะคะ ฮาๆ) ตลอดเส้นทางที่เดินมา ก็จะมีขึ้นเขาเยอะมาก พี่ๆ เค้าก็จะแนะนำว่า ถ้าหนักให้ใช้วิธีการพักโดยการก้มตัวลง ให้กระเป๋าอยู่บนหลังเรา สามารถช่วยได้จริงๆค่ะ เส้นทางที่แนนรู้สึกว่าน่ากลัวมาก คือช่วงขึ้นเขาและมีเชือกให้จับเป็นอะไรที่แบบน่ากลัวมาก (กลัวตก ฮาๆ)
คราวนี้มาถึงจุดหมายแล้วค่ะ ที่ตั้งแคมป์ของเราอยู่ตรงข้างๆ ลำธารเลย ได้บรรยากาศเว่อร์ พวกพี่ๆ เค้าก็จะเตรียมหาฟืน มาก่อไฟ เอาผ้าใบมาคุลมเป็นหลังคากันแดดกันฝน ทำที่นอน ที่ทำอาหาร ผูกเปล ต่างๆ แนนก็ได้แต่นั่งมองค่ะ เดินไปเดินมา เพราะทำอะไรไม่เป็นเลย ฮาๆ พอเราตั้งแคมป์เสร็จก็พักผ่อน ตามอัธยาศัยค่ะ อุปสรรคของวันแรกคือ ฝนตกหนักมาก ผ้าใบเปียกหมด หนาวด้วย แต่ก็ผ่านไปด้วยดี พวกเราก็นั่งกินข้าว พี่ๆ ทำอาหารอร่อยมาก รสชาติสุดยอด พอกินเสร็จ ก็นั่งคุย นั่งเล่น ร้องเพลง เล่นกีร์ต้าบ้าง ต่างๆ ในความรู้สึกแนน ณ ตอนนั้น แนนกล้าพูดเลยว่า เป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก หาไม่ได้จากใน กทม. แนนรู้สึกถึงความเงียบ สงบ สบาย ได้ยินเสียงลม เสียงน้ำ มันมีความสุข สดชื่นมากเลยค่ะ

วันนั้นนะคะ แนนอยากอาบน้ำมาก แต่ก็ไม่ได้อาบ เอาจริงๆ คือกลัวค่ะ เพราะพี่เค้าไม่มีใครไปอาบกันซักคน แนนก็เลยไม่อาบบ้าง ฟันก็ไม่แปรง ฮาๆ เวลาปวดฉี่ เป็นอะไรที่เกลียดมาก เพราะแนนต้องเดินเข้าไปในป่าลึกๆ เพราะกลัวคนจะเห็น ฮาๆ และก็นั่งฉี่ค่ะ เอาล่ะ พอนั่งไปสักพัก หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อนละค่ะ สุดท้าย หลับค่ะ แต่แนนก็หลับๆ ตื่นๆ นะ เพราะในแคมป์จะต้องมีการผลัดกันเฝ้ายาม แนนก็อยากจะมีส่วนร่วม อยากจะช่วยพี่ๆ เค้าบ้าง ก็เลยหลับๆ ตื่นๆ มานั่งเล่นกับพี่ๆ เค้า แต่สุดท้ายก็หลับยาวค่ะ ตื่นมาอีกทีประมาณ เกือบๆ ตีห้า ก็มีพี่คนหนึ่งต้มมาม่าให้กิน หายหิวแล้วจ้า แนนก็ออกไปเดินเล่นตรงลำธารค่ะ เพราะเหมือนเป็นการบิ้วท์ตัวเองให้เตรียมถ่ายอุจจาระ ฮาๆ แนนก็เดินเล่นถือกล้องไปถ่ายบรรยากาศ ถ่ายดอกไม้ บ้างต่างๆ และแล้วก็ถึงเวลาที่แนนเกลียดยิ่งกว่าการฉี่อีกค่ะ คือการถ่ายอุจจาระในป่าไม่มีห้องน้ำนะคะ ไม่มีฝักบัวไว้ล้าง ฮาๆ วิธีการถ่ายอุจจาระ อุปกรณ์คือทิชชู่เปียก มีดและเดินเข้าไปในป่า เพื่อไม่ให้คนเห็นและก็เตรียมมองหาโลเคชั่นในการปลดทุกข์ค่ะ เย้!! ได้แล้วค่ะ ขึ้นไปบนเขาหน่อยๆ เหยียบหญ้า มองพื้นดีๆ เผื่อจะมีแมลง สัตว์ กิ่งไม้ และก็ใช้มีดขุดหลุมค่ะ แล้วก็หย่อนก้นไป พรวดเดียวจบค่ะ ทำความสะอาด เอาดินกลบๆ และใช้ไม้ปักไว้ เพื่อกันคนอื่นมาเหยียบค่ะ และก็โล่งไปอีกหนึ่งวัน ช่วงเช้าก็ไม่มีไรมากค่ะ นั่งๆ นอนๆ และก็กินข้าว นั่งคุยปกติ สนุกสนาน เอาจริงๆ ก็เหมือนมาพักผ่อนแบบเต็มรูปแบบเลยก็ว่าได้ ฮาๆ

พอถึงช่วงบ่ายๆ พี่ๆ ก็พาไปน้ำตก แนนจำไม่ได้ว่าน้ำตกชื่ออะไร แต่ต้องเดินเข้าป่าไปนิดนึงก็ถึงแล้วค่ะ และด้วยความที่แนนเป็นคนซื่อ ก็คือโดนแกล้งค่ะ ให้แนนถือขวดน้ำไปน้ำตก โดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวไปน้ำตกจะไม่มีน้ำกิน แนนก็เชื่อค่ะ ลืมคิด ถือขวดน้ำไปเลยค่ะ และก็เพิ่งมาคิดได้ตอนขากลับ ฮาๆ (ลืมบอก น้ำที่ใช้ในการกิน การประกอบอาหาร คือน้ำจากลำธารนะคะ น้ำสะอาด สามารถกินได้ค่ะ) และพอมาถึงน้ำตก ก็ไม่มีไรมากค่ะ ถ่ายรูปเล่น เล่นน้ำปกติและสักพักก็กลับมาแคมป์ค่ะ ก็เตรียมตัวไปอาบน้ำ พวกเราก็จะเดินไปตรงลำธารค่ะ จะมีแหล่งน้ำเล็กๆ ให้อาบ ให้เล่นน้ำกัน บรรยากาศดีมาก เป็นอะไรที่ฟินมาก อาบน้ำทีนี่เห็นภูเขา เห็นต้นไม้ เสียงลม ฮาๆ ได้บรรยากาศไปอีก พวกเราก็อาบน้ำ นั่งเล่น นั่งคุยไปเรื่อย ไปที่นั่นไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะคะ เล่นไม่ได้เลย ต้องมาเล่นตรงที่อาบน้ำ แต่สัญญาณก็ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่

 

วันเสาร์ก็ไม่มีไรมากค่ะ นั่งเล่นเรื่อยเปื่อยกินข้าว ทำอาหาร นั่งคุย นู้นนี่ แต่ช่วงที่แนนอยู่ในแคมป์นะคะ ช่วงบ่ายแนนยึดเปลเลยจ้า นอนค่ะ แนนหลับๆ ตื่นๆ บ่อยมาก พี่ๆ ก็คงเอือมระอากับแนน ฮาๆ เพราะวันๆ ไม่ได้ทำไรเลย ถือคติที่ว่า นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแดกจ้า และมีเหตุการณ์หนึ่งที่ฮามาก ช่วงดึกๆ คือแนนหลับอยู่บนเปลและคนอื่นๆ ก็นั่งคุยนั่งเล่นกัน พี่ๆ เค้าก็ปลุกแนนนะ แต่แนนก็ไม่ตื่น คือหลับลึกมาก พี่ๆ เค้าก็เลยตะโกนบอกว่า ฝนตกๆ แบบเสียงดังมาก บวกกับแนนก็เริ่มรู้สึกตัวละ แนนได้ยินเสียงลมแรงมาก ความที่ตกใจรีบตื่นและด้วยความที่ขาแนนยาว ลุกขึ้นที่ขานี่เกือบฟาดคอพี่คนหนึ่ง ฮาๆ (พี่เค้าพึ่งมาเล่าให้ฟังตอนขากลับ) อย่างฮา!!! วันที่ 2 ของการเข้าป่าก็ไม่มีไรมากค่ะ พักผ่อน ปกติ เหมือนเดิม แนนได้สัญญากับพี่ๆเค้าไว้นะ ว่าช่วงดึกๆ แนนจะตื่นมาทำข้าวต้ม กุนเชียง ให้พี่ๆ เค้ากินกัน แต่สุดท้าย ไม่ตื่นค่ะ หลับยาว ตื่นมาอีกทีคือพี่ๆ เค้าทำกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปนั่งกินข้าวต้มมื้อดึกกันที่ลำธารค่ะ มืดมาก แต่ก็มีไฟฉายช่วงให้แสงสว่างนะคะ พี่ๆ เค้าก็จะเอาไฟฉายใส่ไว้บนหัวแล้วก็ส่องลงมาที่อาหาร เป็นการทานอาหารที่ได้อรรถรสมาก ฮาๆ ด้านข้างเป็นลำธาร เสียงน้ำ เสียงลม มีหิ่งห้อย กับอาหารที่รสชาติพอๆ กับโรงแรมหรูระดับห้าดาว เผลอๆ อร่อยกว่าด้วย ข้าวต้มอุ่นๆ กุนเชียงแสนอร่อย กับผัดอะไรไม่รู้ใส่ไข่ แนนก็จำชื่อไม่ได้ พวกเรานั่งล้อมวงกิน เป็นบรรยากาศที่สุดจะบรรยาย

และแล้วก็มาถึงวันที่สามของการอยู่ในป่า ก็คือวันกลับนั่นเอง ตื่นเช้ามาก็ไม่มีไรมากค่ะ นอนรอพี่ๆ เค้าตื่นกัน หาไรกินบ้าง แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในป่า แนนก็พยายามหาไรทำ ให้ตัวเองดูมีประโยชน์มาบ้าง ฮาาๆ ก็ไปช่วยพี่เค้าหั่นผัก เรียนรู้ การทำกับข้าวบ้าง ต่างๆ แต่ก่อนจะกลับแนนก็ได้ทำประโยชน์อย่างหนึ่งนะคะ คือ ทอดกุนเชียง สำหรับอาหารเช้าค่ะ ฮาๆ แนนทำตามสัญญาที่ให้ไว้ได้แล้ว พอกินข้าวกันเสร็จ ก็เตรียมตัวอาบน้ำ เก็บของเพื่อเตรียมตัวจะกลับ ก่อนกลับได้มีพิธีหนึ่ง แนนก็จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร คล้ายเป็นการขอขมา ขอบคุณ ป่าที่คุ้มครองพวกเราให้อยู่ในป่าได้อย่างปลอดภัย ตามรูปนี้เลยค่ะ

และก็เก็บของใส่กระเป๋าเตรียมเดินทาง ขากลับกระเป๋าค่อนข้างเบานะคะ เพราะกินกันหมด ฮาๆ เดินสบายเว่อร์ ในกระเป๋าก็เหมือนเดิมค่ะ ของใช้ส่วนตัว ของส่วนกลางเล็กน้อย แบ่งๆ กันไป

และก็เดินทางกลับค่ะ ทางเดิม บรรยากาศในการเดินก็สนุกสนานเหมือนเดิมค่ะ เฮฮา โดนแกล้งบ้างนิดหน่อย เดินไปเรื่อยๆ พักบ้าง นิดหน่อย แต่จะเร็วกว่าขามานะคะ เพราะกระเป๋าเบาด้วย เดินขึ้นเขาก็จะมีไม่มาก เลยไม่เหนื่อยซักเท่าไหร่และก็เดินกันมาเรื่อยๆ จนถึงเส้นทางหนึ่งเป็นอะไรที่แบบโคตรเหนื่อย โคตรทรมาน คือเป็นเส้นทางก่อนจะถึงวัด เป็นทางชัน ชันไม่พอและยาวมาก พวกเราก็เดินขึ้นไปจ้า สภาพนี่แบบรันทดมาก ทุรนทุราย คือเมื่อไหร่จะถึง คือประมาณว่า เห็นกำแพงวัดแล้วนะ แต่เส้นทางนี่แบบยาวนานมาก ฮาๆ เอาวะ สู้ดิเฮ้ย จะถึงแล้ว จะได้กินแป๊บซี่แล้ว หมูกระทะแล้ว และสุดท้ายพวกเราก็มาถึงเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก ร้อนมาก หิวมาก เหนอะหนะ ทุกสิ่งทุกอย่าง

และทั้งหมดนี้นะคะ เป็นประสบการณ์การเข้าป่าครั้งแรกของแนน อาจจะพิมพ์ผิดถูกบ้างต้องขออภัยนะคะ เอาจริงๆ ก็มีเรื่องราวเยอะกว่านี้อีก แต่ขอเล่าแบบรวบๆ เน้นสิ่งที่ประทับใจมากกว่า และสุดท้ายนี้แนนขอขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนที่ได้ไปเข้าป่าด้วยกัน ที่ให้ความรัก ความเอ็นดูกับน้องคนนี้ เป็นมิตรภาพหนึ่งที่แนนจะไม่มีวันลืม การเข้าไปอยู่ในป่าตลออดสามวันถือเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมากๆ สำหรับแนน
ตั้งแต่แนนเกิดมาไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้เลย ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าแก่การจดจำ และในทริปถัดไป และต่อๆ ไป ถ้าพี่ๆ ยังคิดถึงน้องสาวคนนี้อยู่ ชวนน้องไปอีกนะคะ เหนื่อยจริง ร้อนจริง ลำบากจริง แต่น้องคนนี้ก็ยังอยากที่จะไปลำบากแบบนี้อีก เพราะความลำบากเราเจอแค่ช่วงตอนเดินเข้าไปในป่า แต่พอเข้าไปอยู่ในนั้นแล้ว ได้เจอบรรยากาศ ทิวทัศน์ สิ่งต่างที่เป็นธรรมชาติ มันอบอุ่น มันสงบ ไม่วุ่นวาย มันคุ้มจริงๆ กับการที่ยอมเหนื่อยในตอนแรกและเข้ามาเจอสิ่งเหล่านี้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ รักพี่ๆน้องๆ เพื่อนๆ ทุกคน

แนน

ปิดการแสดงความเห็น