กาลครั้งหนึ่ง ณ แก่งยาว

san 1หลังจากการไปรดน้ำดำหัว ครูนพรัตน์ เมื่อวันก่อน เช้าของวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๖  วันนี้เรามีนัดกัน ขึ้น แก่งยาว ซึ่งกระผมก็มีโอกาสได้ไปทริปนี้เป็นครั้งแรก จึงพาเพื่อนมาด้วย คือ มีน ทีน และน้องก๊อตซิล่า พี่นิมเล่าว่า ทริปนี้เป็นทริปของ อาจารย์ชุมพลแก เป็นประจำทุกปี และปีนี้ครูนพก็ร่วมเดินทางไปด้วย พวกเราได้นัดรวมตัวกัน เก็บของสัมภาระ พอได้เวลาจึงพากันเดินทาง ระหว่างทางก็เปียกน้ำบ้าง พอได้คลายร้อนกัน ไปพลางๆ

san 2ในที่สุดเราก็มาถึงกันสักที เส้นทางที่พวกเราจะเดินป่า มุ่งหน้าเข้าสู่แก่งยาว พอเจ้าหน้าที่ มาถึงพวกเราก็เริ่มเดินทางมุ่งหน้าสู่ แก่งยาวอย่างไม่รอช้า(ลืมแนะนำพี่เจ้าหน้าที่ คือ พี่มินและพี่ต้น) พวกเราเดินทางกันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุดพัก ผ่านมาสักระยะหนึ่ง เราจึงแบ่งกลุ่มแรกเดินล่วงหน้าไปก่อน ส่วนกระผมขอเดินกลุ่มหลังดีกว่า เวลาผ่านไปอย่างไม่รอใคร อยู่ๆ กระผม(เสือแสน) พี่จิมและเจ้าสักทอง ก็เดินกันมาก่อนเพื่อหวังว่าจะตามกลุ่มแรกทัน “เดินไป เดินไป” สักพักเจ้าสักทองพูดขึ้นว่า “พี่เราจะไปทางไหนล่ะ” กระผมจึงตอบไปว่าตรงไปตามรอยใหม่ๆ เจ้าสักทองเริ่มหวาดระแวงกลัวจะหลงทาง เห็นท่าไม่ดีกระผมเลยไปเดินนำ เดินอยู่ครู่หนึ่ง เจ้าสักทองเลยเอ่ยว่า “พี่เรามาถูกทางแล้วพี่ ผมเห็นทิชชูใหม่ๆ ข้างทาง” เจ้าสักทองก็เลยมั่นใจ และดูร่าเริงขึ้นทันที ไม่นานกลุ่มครูนพก็ตามมาสมทบกับพวกเราอย่างรวดเร็ว พวกเราจึงรีบเดินเพื่อจะได้ไปถึงจุดที่พัก และจัดเตรียมสถานที่ที่จะพักแรม ทำอาหารมื้อเย็นกันด้วย ก่อนจะมืดค่ำและดูท่าวันนี้ท้องฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะมาเยี่ยมเยียนพวกเรา

ในที่สุด พวกเราก็เดินทางมาถึงสักที จุดที่พวกเราจะพักค้างแรม และประกอบอาหารสำหรับตลอด ๔ วัน ๓ คืน ที่จะใช้เวลากับการพักผ่อนอยู่กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และธรรมชาติ ความมืดเริ่มเข้ามาเยือน แสงแดดเริ่มหายไป มีแต่แสงจากกองไฟ สวยงามยามค่ำคืน

san 3       san 4

ค่ำลงแล้วมืดมิดฟ้าปิดม่าน
ค่ำลงแล้วนกป่าร่อนราปีก
บินหลบหลีกคืนหลังสู่รังเก่า
งดเสียงดังเจื้อยแจ้วผ่อนแผ่วเบา.
คอยคลอเคล้าลูกนกจิกวกวน
ค่ำลงแล้วมืดพลันน่าหวั่นไหว
กลางพงไพรลึกลับพาสับสน
ริมเชิงเขาที่อยู่น้อยผู้คน.
มีถนนทอดวางเลียบทางภู
ค่ำลงแล้วมืดมิดฟ้าปิดม่าน
ชะนีขานเสียงร้องโหยก้องกู่
หนึ่งนางไม้เคืองจัดผองศัตรู.
เตรียมหลอนผู้หมายมาโค่นตะเคียน !

อริญชย์ ๓ /๒ /๒๕๕๖

san 5
แว่วเสียงสำเนียงเพลง ยามทุกค่ำคืน จาก พี่แขก บรรเลงกล่อมพวกเราในยามค่ำคืนของทุกๆ ครั้งที่เรามาพักแรมอยู่ในป่า บ้างหลับ บ้างดื่มด่ำน้ำอมฤต บ้างกินข้าวต้ม บ้างแต่งหน้า บ้างชมดาว บ้างชมจันทร์ และบ้างก็เดินสำรวจตรวจสอบรอบๆ เต๊นท์

san 6ฟ้าที่มืดเริ่มมีแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ส่องมา สาวๆ ปราจีน นำทีมโดย ประธานนกหวีด และสมาชิกปราจีนคนใหม่ เจ้าก๊อตซิล่า (ไม่รู้ว่าแปรพรรคตั้งแต่ตอนไหน) ลุกขึ้นมาหุงข้าว ทำอาหารกันอย่างสนุกสนาน รวมถึง พี่เก่ง ก็ออกตะลุยน้ำหาปลาเอาำมา แกงใส่หน่อไม้ส้ม กระผมก็ไม่น้อยหน้าคว้าเอาคันไม้ไผ่ ตกอยู่ด้านข้างที่พักได้มา ๓-๔ ตัว แต่มิสู้พี่เก่งที่เดินมาพร้อมกับกระเป๋ากางเกงตุงๆ (อย่าคิดลึกนะเพราะที่ตุง คือ ใส่ปลามานะครับ) วันนั้น กระผม มีน และเจ้าสักทอง ได้ทำการชำแหละปลา ขอดเกล็ด ล้างไส้ เพื่อความอร่อยของปลาทุกตัวที่หากันมา

เช้าวันที่สาม พี่เก่งกับครูนพ ก็ต้องเดินทางกลับก่อน เพราะมีธุระ หลังจากรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ พี่เก่งและครูนพ ก็เดินทางกลับ เมื่อคนสำคัญของเรากลับไปแล้วสองคน พวกเราก็หวิวๆ หวั่นๆ เวลาใกล้เที่ยง อากาศเริ่มร้อนพวกเราจึงพากันไปเล่นน้ำตกกันคลายความร้อน  เล่นกันอย่างสนุก สนาน ให้ธรรมชาตินวดให้ เย็นๆ สบายๆ แต่แล้วอยู่ดีๆ ฟ้าฝนเป็นใจ ตกลงมาซะงั้น หลังจากเล่นน้ำเสร็จพวกเราก็เดินทางกลับที่พัก ฝนก็ยังตกอีก ทำเอาพวกเราวุ่นวายกันเลยทีเดียว เนื่องจากฝนตกอย่างต่อเนื่องน้ำซึมเข้าเปลนอน ซึมเข้าที่เก็บกระเป๋าสัมภาระของพวกเรา แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีsan 7

san 8

วันสุดท้ายกับ “กาลครั้งหนึ่ง ณ แก่งยาว” สายฝนโปรยปรายตั้งแต่เช้า วันนี้แล้วสินะที่เราต้องจากกัน หลังจากเก็บของสัมภาระเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางลงจาก แก่งยาว การเดินทางลงครั้งนี้ช่างสนุกสนาน เพราะฝนฟ้าเป็นใจตกซะหนักเลยทีเดียว ทำให้พวกเราทั้งหมดเปียกกันท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา ชุ่มฉ่ำกันทั้งหมด

san 9

 

สุดท้ายนี้กระผม  ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่มดีดีจากและข้าวต้มร้อนๆ ของ พี่โจ และทุกๆ คน ตอนเดินทางกลับร่วมเล่นสายฝนด้วยกัน อย่างสนุกสนาน แถมยังได้พบ เจอกระทิง ตัวจริง เป็นๆ ลงมากินต้นข้าวโพด ครั้งนี้เป็นทริปที่มีแต่ความสุข สนุกสนาน และประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วครั้งหน้าเราจะกลับมาเจอกัน แน่นอนกับ “กาลครั้งหนึ่ง ณ แก่งยาว ปี ๒๕๕๗”  พวกเราจะมาพบกันอีกครั้ง…… สวัสดี !

โดย เสือแสน

ปิดการแสดงความเห็น