มื้อนี้หม้อสนาม ตอน มื้อนี้ไม่มีรสดี

มื้อนี้หม้อสนาม ตอน มื้อนี้ไม่มีรสดี

มื้อนี้หม้อสนาม ตอน มื้อนี้ไม่มีรสดี

การเดินทางสู่น้ำตกแก่งยาว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  คณะของเราชุดแรกนัดหมายที่สถานีรถไฟปราจีนบุรี วันที่ 15 เมษายน 2553  เวลาประมาณ 07:00 น.  มีการจัดเตรียมเสบียงอาหารเรียบร้อย ถึงเวลาเดินทางโดยรถกระบะของน้าของคุณหวาน  ข้ามอุทยานแห่งชาติฝั่งเนินหอม  ถึงที่นัดหมายที่บ้านวังหมี เวลาประมาณ 12:00 น. โดยพี่หน่อง พี่อ๋อ พี่นิม มารอต้อนรับ  รับประทานอาหารกลางวันเสร็จคณะของเราจำนวน 12 คน  เตรียมเสบียงเพิ่มเติม เริ่มออกเดินทางเข้าป่าเวลาประมาณ 13:00 น.  จากการสอบถาม น้ายงค์ผู้นำทางว่าระยะทางประมาณเท่าใด คำตอบที่ได้คือประมาณ 7 ก.ม. คณะของเราได้แบ่งสัมภาระเพื่อแบ่งเบาในการเดินทาง  ที่เหลือน้ายงค์จัดการใส่เป้ซึ่งทำจากถุงปุ๋ย โดยใส่ของได้จำนวนมาก

การเดินทางในช่วงแรกจะเป็นทางปกติ หลังจากนั้นจะมีสภาพเป็นป่าหญ้า พี่หน่องบอกว่า ทางจะลำบากมากต้องขึ้นเขาที่ค่อนข้างชัน  การเดินทางช่วงนี้ใช้เวลานาน ประกอบกับอากาศที่ร้อนเหงื่อออกมากทำให้ต้องหยุดพักดื่มน้ำ กาแฟ ระหว่างทาง  น้ำที่เตรียมมาก็เริ่มหมด หลังจากได้พักผ่อนแล้วก็เดินทางต่อไปจนถึงน้ำตกแก่งยาว ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายนที่ร้อนสุดๆ ก็ตามยังมีน้ำให้ใช้สบายๆ คณะของเราเดินทางมาถึงเวลาประมาณ 17:00 น. หลังจากนั้นได้แบ่งหน้าที่ในการ หาฟืน ตั้งแคมป์  เตรียมทำอาหาร เราทำอาหารมิ้อแรก ณ แก่งยาวแห่งนี้ อาหารอร่อยมาก หรือว่าพวกเราหิวก็ไม่รู้ แต่ที่น่าสงสัยว่าจากการเตรียมเสบียงเราขาดอะไรบางอย่าง  ซึ่งหลายคนบอกว่าซื้อมาแล้วนั่นก็คือ รสดี แต่แน่ๆ ที่ไม่ได้ซื้อคือของหวานในการเดินป่า คือถั่วเขียว

หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเรียบร้อย เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมีฝนตกพรำๆ เวลาประมาณ 20:00 น. หลังจากนั้นก็หยุด แต่เมื่อเวลา ประมาณ 02:00 น. ฝนก็ตกกระหน่ำทำให้พวกเราต้องปรับปรุงแคมป์เพื่อไม่ให้เปียกน้ำ พี่หน่องบอกว่า ถ้าฝนยังตกอีก 1 ชั่วโมง ต้องเตรียมอพยพขึ้นเขาเพราะน้ำป่าจะมา อันตรายมาก หลังจากนั้นถือว่าโชคดี ฝนหยุดตก แต่พวกเราก็ต้องยังไม่มั่นใจว่าฝนจะตกหรือไม่  รุ่งเช้าพวกเราก็ตื่นมาจัดแจงทำอาหาร  แต่ที่น่าเสียดาย คือเรามีไข่มาแต่รสดีไม่มีทำอย่างไรดี จีงใช้น้ำตาลทรายที่เตรียมมาใส่แทนรสดี ปรากฏว่า ไข่เจียวกลายเป็นนิโกรบางส่วน  แต่เราก็รับประทานโดยนำเอาส่วนที่ดำออกไปเพราะเรากลัวมะเร็ง

ในตอนกลางวันสมาชิกส่วนหนึ่งนำโดยพี่หวาน ก็นำเบ็ดไปตกปลาเพื่อเป็นเสบียงเพิ่มเติม ส่วนหนึ่งไปรองน้ำจากน้ำตกแก่งยาวซึ่งใสเย็น น้ายงค์เตรียมมอง(ตาข่าย) มาด้วย ทำให้ได้ปลาตัวใหญ่ จำนวนมาก ซึ่งแปรรูปมาเป็นปลาย่าง ซึ่งทำให้เก็บไว้ได้นาน  หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว พวกเราส่วนหนึ่งก็ออกเดินทางไปสำรวจพืชพันธุ์ และสัตว์  โดยการนำของน้ายงค์ ผู้มีประสบการณ์ ในการเดินป่า ได้พาเราไปดูหมู่บ้านร้าง  ซึ่งในอดีตมีชาวบ้านมาอาศัยอยู่  ซึ่งสิ่งที่เหลืออยู่คือต้นไม้ ซึ่งชาวบ้านจะปลูกไว้เป็นที่สังเกตคือ ต้นมะม่วง และต้นขนุน  ซึ่งปกติในป่าจะไม่มี แต่พวกเราจะไม่ได้รับประทานเพราะสัตว์จะมากินก่อนเสมอ  สัตว์ที่พบเห็นได้ก็คือผีเสื้อ ซึ่งมีสองชนิดคือผีเสื้อกลางวัน และ ผีเสื้อกลางคืน  ผีเสื้อกลางวันจะมีสีสันที่สวยงาม  ส่วนผีเสื้อกลางคืนจะไม่สวย

หลังจากการศึกษาธรรมชาติเรียบร้อยแล้ว  ก็จัดการทำอาหารมื้อค่ำ และไปรับประทานที่ลานหิน ตรงน้ำตกแก่งยาว   คืนนี้อากาศปลอดโปร่งไม่มีฝน  หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาพักผ่อนมีดนตรีขับกล่อม  โดยพี่หน่องและพี่อ๋อ  จากกีตาร์ซึ่งเราแบกขึ้นเขามาด้วยความยากลำบาก   หลังจากได้เวลาอันสมควร คณะของเราก็แยกย้ายกันนอนพักผ่อน
หลังจากเช้าแล้วภารกิจของเรายังเหมือนเดิม  รับประทานอาหารเช้า   รับประทานอาหารกลางวัน แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น  เมื่อสมาชิกของเราบางคนได้ส่องกล้องทางไกลได้เห็นสิ่งที่น่าตกใจ อย่างมากคือเห็นเป็นคนผู้หญิงนอนคว่ำหน้า ในแก่งยาวเหนือแคมป์ของพวกเรา  พวกเราบอกว่าถ้าเป็นศพจริง เราจะทำอย่างไรบางส่วนก็บอกว่าเก็บแคมป์  บางส่วนก็บอกว่าไม่ต้องเก็บแคมป์แต่แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยาน   หลังจากให้สมาชิกเข้าไปดูปรากฏว่าเป็นเพียงเศษของใบไม้ซึ่งมากองทับถม
ทำให้พวกเราโล่งใจ

จากนั้นเราก็เตรียมทำอาหารซึ่งคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของการมาตั้งแคมป์ รับประทานอาหารแล้วพูดคุยว่าถ้ามีโอกาสก็จะมาที่นี้อีก   เช้าวันต่อมาเราได้ทำอาหารเช้า รับประทานอาหารเช้า เก็บแคมป์  จัดการทำความสะอาดบริเวณที่พักให้เรียบร้อย เพื่อเดินทางกลับ  การเดินทางกลับมีความสบายกว่าตอนขามามาก  ระหว่างทางก็ได้นำ ขวดน้ำไปเติมน้ำซับ  ซึ่งใสเย็น น่าดื่มมาก  การเดินทางในช่วงขากลับนี้ต้องระวังลื่นเพราะทางชัน ต้องเดินลงอย่างระมัดระวังพยายามเกาะต้นไม้ไว้ให้ดี  เราเดินทางออกจาก ป่า ซึ่งใช้เวลาสั้นกว่าที่ปีนขึ้นมา  พอมาถึงทางออก  เราก็บ่นว่า รสดีที่ซื้อมาอยู่ไหน  พวกเราคิดได้ว่าลืมไว้ตรงปากทาง แต่เหตุใดจึงไม่พบ สงสัย ชาวบ้านคงเอาไปปรุงอาหารแล้ว …พบกันใหม่ ในคราวต่อไป

2 thoughts on “มื้อนี้หม้อสนาม ตอน มื้อนี้ไม่มีรสดี

  1. ทดสอบ มื้อนี้หม้อสนาม บทความโดย อ.ชุมพล เทคนิคปราจีน

  2. สักวาแต่งกลอนหลังจากเที่ยว
    นาน-แต่เหมือนแป๊บเดียว..เนาะ!สหาย
    เรียนกันแล้วเที่ยวไปให้ผ่อนคลาย
    และสุดท้ายต้องย้ายแยกไปจากกัน
    ถึงแม้ตัวห่างไกลกันสุดกู่
    กลับเหมือนอยู่ชิดใกล้ในความฝัน
    จึงตั้งหน้าตั้งตาด้วยผูกพัน
    คราวหน้าฉัน..ก้อจะมาใหม่อีกเอย