เรื่องเล่า ณ ผาด่านช้าง

Got -  (2)การไปเดินป่าครั้งนี้  ความรู้สึกมันก็แตกต่างจากทุกครั้งที่ไปเดิน   เพราะว่าในแต่ล่ะครั้งที่ไปเดินความรู้สึกมันก็ไม่เหมือนกันเลย ไปเดินป่าครั้งนี้ก็มีเพื่อนๆ ต่างคณะ และ พี่ๆ ต่างคณะไปเดินด้วย
วันแรกในการเดินป่า  โอ้โห พี่มีน พี่เม็ดทราย พี่ปุ๊ก ฟิตมาก ร้องเพลงมาตลอดทางเลย แต่ยังไม่ถึงจุดเริ่มต้นเสียงเพลงก็เริ่มเบาลง เราไปหยุดพักที่ มอมะกอก แล้วก็กินข้าวเที่ยงกันหลังจากนั้นก็เริ่มทยอยกันเดินต่อแล้วก็มีพักบ้างเป็นบางจุด แล้วก็เริ่มมีเสียงบ่น “เหนื่อย! เหนื่อย! เหนื่อย! หนัก! หนัก! หนัก!” ขึ้นมา หนึ่งในนั้นก็มีหนูด้วยที่บ่น ๕๕๕ หลังจากนั้นก็มีการแบ่งกลุ่มเป็นสองกลุ่มเพราะว่า พี่ปาล์ม ป่วยก็เลยมีการแบ่งกลุ่ม กลุ่มแรกเดินล่วงหน้าไปก่อนเพื่อที่จะได้เตรียมอาหาร เตรียมที่พักไว้รอชุดหลัง ทุกคนช่วยกันหาฟืนก่อไฟทำอาหารช่วยกันคนละไม้คนมือ พอเย็น พี่อ๋อ ก็พาไปนั่งที่หน้าผาเพื่อที่จะรอดูนกเงือก แล้วก็นอนฟังเสียงนก เสียงน้ำ เสียงธรรมชาติร้อง พ่วนแหล่ว!! จินตนาการล้ำเลิศ อิอิ หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำแล้วก็กินข้าวเย็นกัน แล้วก็มีการแบ่งเวรยามกันเพื่อที่จะได้ดูแลความปลอดภัยรอบๆ ที่พัก แล้วทุกคนก็เข้าสู่นิทรากันมีเสียงเพลงเพราะๆ กล่อม

 

Got -  (5)เช้าของวันที่สอง  ทุกคนช่วยกันทำกับข้าวโดย พี่หวานเป็นคนหุงข้าว พี่ปุ๊ก พี่มีน พี่นิม เป็นคนทำกับข้าว ข้าวมื้อนี้แซ่บหลายเด้อ พอตกเย็นก็ไปดูนกเงือกดูพระอาทิตย์ตก ทุกคนไปอาบน้ำแล้วก็มาร่วมรับประทานอาหารกัน แล้วก็แบ่งเวรยามกันเหมือนเดิม วันนี้หนูอยู่เวรผลัดแรกได้ฟังลุงแขกร้องเพลงด้วย ลุงแขกร้องเพลงเพราะมากๆ
เช้าของวันที่สาม ฮึ!! เสียงใคร เสียงพี่เก่งนั้นเอง โอ้โห พี่เก่งตามมาที่ผาด่านช้างคนเดียวเลย แล้วก็มีเสียงแซวเล่นๆ ว่าพี่เก่งหนีลูกมาเที่ยว ๕๕๕ พอบ่ายๆ พี่อ๋อ พี่นิม พี่หวาน ก็ได้พาขึ้นไปที่น้ำตก แล้วก็พาดูรอยสัตว์ ดูพันธุ์ไม้ต่างๆ พอถึงที่น้ำตกก็พักถ่ายรูปกัน พี่อ๋อ ก็เรียกไปนั่งรวมกันแล้วก็ถามความรู้สึกของแต่ล่ะคนว่า “เป็นยังไงที่มาที่นี่รู้สึกยังไงกับการเดินป่าครั้งนี้”  ทุกคนก็บอกความรู้สึกไปก็มี  “ทั้งสนุกและก็ไม่สนุก” หลังจากนั้นเราก็เดินกลับที่พัก ทุกคนก็ช่วยกันหุงข้าว ทำอาหารช่วยกัน แล้วพี่อ๋อก็พาไปที่หน้าผา ให้แบ่งกลุ่ม ๓ – ๔ คน และให้คิดคำสองพยางค์ของแต่ละคน แล้วเอามารวมกันแล้ว

 

ก็Got -  (7)นำมาแต่งเป็นกลอน และนำเสนอ หลังจากนั้น พี่อ๋อ พาไปนั่งบนหินให้เราอยู่กับธรรมชาติ ทำตัวให้สบายๆ แล้ว พี่อ๋อ ก็พูดให้เราคิดว่าหินนี้มีชีวิต ตอนนี้นะความรู้สึกของหนูเหมือนหินมันขยับได้เราอยู่บนหินแล้วเหมือนตัวเราจะไถลไปกับหินด้วย แล้ว พี่อ๋อ ก็ปลุกตั้งสองสามครั้งกว่าจะตื่นจากจินตนาการอันล้ำเลิศสุดๆ ๕๕๕ หลังจากนั้นก็นั่งรอดูนกเงือก นั่นๆๆๆ วันนี้ นกเงือกมันบินเข้ามาใกล้เราด้วยสงสัยเป็นวันสุดท้ายมั้งก็เลยบินเข้ามาให้ดูใกล้ๆ อิอิ พอค่ำก็พากันกินข้าวแล้วก็ช่วยกันล้างจานจนเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำกัน โดยคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย ลุงแขกได้สอนนวดด้วยแหละ อิอิ แล้วพี่ๆ ก็พากัน เล่นกีต้าร์ ร้องเพลง ให้น้องๆ ฟังแล้วทุกคนก็ต่างหลับไหลไปกับเสียงเพลงที่ไพเราะ

 

Got -  (4)Got -  (3)

 

เช้าของวันที่สี่  ซึ่งเป็นวันสุดท้ายแล้ว ทุกคนช่วยกันทำอาหารแล้วก็รับประทานอาหาร แล้วก็เก็บสัมภาระของตัวเองเพื่อที่จะเดินทางกลับ และก็ได้มีการทำ พิธีอำลากองไฟ กัน พอกล่าวคำอำลาเสร็จแล้วพี่เก่งบอกให้ขอพรจากเจ้าป่าเจ้าเขา เอ้า..ใครอยากได้พรอะไรก็ขอเอา พอขอพรเสร็จยังไม่ทันจะสาธุเลย พี่นิม ก็เทน้ำใส่กองไฟซะงั้น โดนเต็มๆ เลย พี่นิม แหม!!! แกล้งน้อง แต่ก็เป็นกิจกรรมที่ดีแล้วก็สนุกด้วย หลังจากนั้นก็เดินทางกลับGot -  (6)

 

Got -  (1)

 

เฮ้ยยย  ระว่างทางก็มีเสียงฟ้าร้องด้วยแล้วฝนก็ตกตามมา รู้สึกว่าตอนลงนี้จะเร็วมากเลย พอถึงจุดพักฝนก็หยุดตกแล้วก็นั่งพักกันกินข้าวกัน อั๊ยยะ พี่เก่งมีขนมมากินด้วย พี่เก่งก็ได้แบ่งขนมให้น้องๆ กิน ๕๕๕    หลังจากนั้นเราก็เริ่มทยอยกันเดินลงเขา ก่อนจะกลับ อาจารย์นพ ก็ได้พาไปเลี้ยงข้าวมื้อเย็น แล้วก็กลับไปที่บ้านลุงแขก ไปเก็บของที่ฝากไว้ แล้วก็อาบน้ำเตรียมตัวเพื่อที่จะกลับสารคาม อาจารย์นพ และพี่ๆ ก็ได้ไปส่งที่สถานีรถไฟ หนูมีความรู้สึกว่าตื่นเต้นมากที่จะได้ขึ้นรถไฟ หลังจากไม่ได้ขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว

 

got
สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณ  อาจารย์นพ และก็พี่ๆ ทุกคนมากๆ เลยนะคะที่เปิดโอกาสให้พวกหนูได้มา ร่วมทำกิจกรรมด้วยและก็สอนให้รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง และก็ขอขอบคุณ ลุงแขก มากเลยที่ได้ให้ที่พักกับพวกหนู ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ความทรงจำครั้งนี้จะมิลืมเลือน ณ ผาด่านช้าง อิอิ

นางสาวสุนารี หวังลุมกลาง
คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ปิดการแสดงความเห็น