หลงสาว จิตใจวาบหวิว แต่เห็นจักรยานที่เธอขี่ไปโรงเรียนจอดอยู่ก็มีความสุขแล้ว
หลงทาง เสียเวลา พาลโกรธคนรอบข้างแบบหัวพัดหัวเหวี่ยง …… แต่ ……
หลงป่า นี่คือสุดยอดแห่งการหลง เดินวนกลับไปกลับมาป่าสวย กลายเป็นป่าเศร้า เห็นต้นหวายเป็นศัตรู เห็นรอยสัตว์เป็นบาดแผลที่เขาเดินไปชนหิน เห็นเนินสูงต่ำ ลำธารเป็นนรกสำหรับการเดินทาง นี่คือจิตสำนึกของผม เมื่อครั้งหนึ่ง เดินหลงป่า จากเส้นทาง ตาดตาภู่ มายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (อาคารโภชนาคารเก่า) บนเขาใหญ่
การเดินหลงป่าในเขาใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหาทางกลับได้ แต่ ถ้าเดินตั้งแต่หกโมงเช้าจากจุดเริ่มต้น จนถึงหกโมงเย็น ยังหาทางออกไม่ได้ ในขณะที่อาหารและน้ำที่เตรียมมาหมดไปแล้ว นี่ถือว่าทางจิตเริ่มถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัว เสียเชิงสำหรับคนนำเดิน เศร้าสร้อยสำหรับคณะที่ร่วมทางและหวังว่าเราคือไฟส่องทางในยามมืดมิด ทุกอย่างจะเริ่มเสียสติและกลัวความมืด กลัวสัตว์ป่าที่เดินหากินอยู่ข้างๆ ทั้งช้าง กระทิง ฝูงหมาไน มด แมลง และสารพัดสัตว์ที่อยู่ ณ เวลานั้น
ดังนั้น การเข้าไปในป่าลึกของเขาใหญ่ ต้องอาศัยพรานชำนาญทาง อย่าเชื่อมั่นตัวเอง ขอให้เชื่อคนชำนาญทาง มีเรื่องราวหลายอย่างที่ลึกลับ ยากจะอธิบายในเขาใหญ่ให้เราได้ศึกษา เช่นกรณีขับรถเบนซ์มาจอดแล้วเดินตามนกเงือก แล้วคนหนึ่งในคณะกล่าวว่า “ป่าแค่นี้เดินเข้าไปเลย” ปรากฎว่าคณะนี้เดินหลงป่าอยู่ ๓ วัน แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เป็นร้อยระดมหาก็ไม่พบและเดินออกมาเองหลังอาคารโภชนาคารเก่า ต้องทุกข์เวทนากินใบไม้และน้ำตามลำธารประทังชีวิต ด้วยคำพูดที่ว่า “ป่าแค่นี้เดินเข้าไปเลย” จึงเลยไป ๓ วัน
การหลงป่า ด้วยอารมณ์ความรู้สึกรัก ในความเขียวชะอุ่ม มีสัตว์ป่าออกมาเดินอวดร่าง อากาศเย็นสบาย เงียบขรึมและทรงเสน่ห์แห่งความเป็นป่าดิบชื้นถือว่าเกิดขึ้นกับผู้ที่มีจิตใจดีงาม
แต่การหลงทางในป่า ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าทั้งดีและร้าย ความหลากหลายของพืชพันธุ์ เดินวนไปวนมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขาดทั้งอาหารและน้ำ ความมืดเข้าครอบงำ ถือว่าเป็นความประมาทของผู้เดินป่า ต้องระมัดระวัง ทางที่ดีต้องหาคนนำทางที่ชำนาญ
โดย อ.เรืองสินธุ์ รัตนลัมภ์
ณ ห้วงเวลาเดียวกัน …. ความเหมือนที่แตกต่าง (เรื่องเล่าจากตาดตาภู่อีกเรื่องหนึ่ง)
โปรโมชั่นเดินป่า เที่ยงวันยันเที่ยงคืน
ค่ายหมอยาน้อยสนุกสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ