๒ ปี ๒ ครั้ง กับ “สมอปูน” องก์ที่ ๑

     ๒๕๕๕  ปีแห่งพุทธชยันตี ปีแห่งเสียงหัวเราะ หรือปีอะไรก็ไม่รู้เถอะ เริ่มผ่านปีเข้ามาไม่ยังทันครึ่งปีดี กระแสความ “อยาก” กลับไปเยือนสมอปูนอีกครั้งก็เริ่มก่อตัวขึ้น … อย่างที่บอกเมื่อ “ความอยาก” มันเริ่มก่อตัว ปรากฏการณ์สร้างกระแสต่างๆ หลอกล่อ เชิญชวนหรือกระทั่งยั่วให้ “อยาก” ทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา แต่ความอยากไม่ได้หยุดเพียงแค่ ปากช่อง ปราจีนบุรี นครนายก สระบุรีเท่านั้น ยังส่งไปได้ไกลถึงมหาสารคามและแล้ว แผนการเยือนสมอปูนในปีนี้ก็เริ่มขึ้น  


ทริปเดินป่าสั้นๆ ในหนึ่งวันเพื่อเป็นการฟิตร่างกาย ถูกกำหนดขึ้นในเดือนกันยายน เส้นผากล้วยไม้ -เหวสุวัต , หนองผักชี – ห้วยน้ำจืด สุดท้าย มอสิงโต – โภชนาคารเก่า (ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติ)  ดูเหมือนจะสร้างความมั่นใจให้กับหลายๆ คนว่าปีนี้ “สมอปูน” จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

   ตุลาคม   เดือนแห่งความตื่นเต้นและการเตรียมตัว เริ่มจากการทำหนังสือขออนุญาตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อย่างเป็นทางการ แม้จะมีเหตุติดขัดเล็กน้อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี โดยมือเจรจาต่อรองชั้นยอดอย่าง “พี่แขก”  ตกเย็นลงมาจากเขาใหญ่ รายการอาหารที่ต้องเตรียมสำหรับนักผจญภัย ถูกนำมาตรวจสอบความถูกต้องอีกรอบ (ใช้คำ “อีกรอบ” ให้ดูดี จริงๆ แล้วตรวจรอบแรกและรอบสุดท้าย)
ใกล้เวลา “สมอปูน” ของเราแล้ว … พี่สุนทร (นักแสดง อาจารย์สอนการแสดง ผู้มากประสบการณ์)  ป้ามอร์   (เจ้าสำนักวังบุปผาที่มีสาวกเพียงหนึ่งเท่านั้น)  เจ้าเปรี้ยว (สาวกวังบุปผาเพียงหนึ่งเดียว) ก็มาถึง “บ้านมะระ แห่งหมู่บ้านเกาะแก้ว”  ตามมาติดๆ ด้วย น้องคิงส์และน้องแจง ที่สู้อุตส่าห์  “ยืน”  รถไฟฟรีมาลงปากช่อง ต่อด้วยเสียง น้องอั้ม ทางโทรศัพท์ว่า “อดใจไม่ไหวพี่ ขอมาด้วย ผมนั่งรถไฟถึงดึก”  ใกล้เวลาแล้วจริงๆ  เสบียงยังไม่จัดหาเลย  “คิงส์ แจง เปรี้ยว ช่วยพี่หน่อยไปซื้อของกัน … ป้ามอร์ไม่ต้องเดี๋ยวซื้อผิด”  …  ตลาดมิตรภาพ เป็นแหล่งจับจ่ายที่เหมาะที่สุดในเพลานี้ …  หมูสด เนื้อ กะหล่ำปลี ๑๒ หัว มันฝรั่ง ๑๐ หัว พริก หอม กระเทียม ต้นหอม ผักชี ขิง ข่า เครื่องต้มยำ ตะไคร้ ใบมะกรูด ฯลฯ ได้น้องคิงส์เป็นพลลำเลียงไปไว้ที่รถ น้องแจงกับน้องเปรี้ยว ทำหน้าที่จัดหาเครื่องปรุงทั้งหลาย จัดการตรวจสอบสินค้าครบถ้วนแล้วก็กลับสู่สำนัก เพื่อจัดการขั้นต่อไป
     “หิว” .. ณ เวลานี้บอกได้เลยว่า “หิว” กลิ่นแกงกระหรี่ ฝีมือพี่แน็ตยิ่งทำให้น้ำย่อยในกระเพาะทำงานหนักมากขึ้น เริ่มตักข้าวพร้อมราดแกงกระหรี่ได้ไม่ทันไร เสียงตามสายก็มา “โหล ๆ ๆ พี่ ผมแสนนะครับ รถโดยสารไม่เข้าปากช่อง ตอนนี้ผมลงที่หน้า Outlet พี่มีรถมารับผมไหมครับ” “รับทราบน้องรอสักครู่พี่ไปถึง”
…. “น้องๆ พักกันที่ไหน”  “โรงแรมวันชัย ครับ เพื่อนจองให้”  “ดีเลยน้องใกล้ๆ บ้านพี่เขาที่นัดกันไว้ แล้วน้อง กินอะไรกันมาแล้วยัง”  “ยังครับพี่”  “งั้นมากินที่บ้านพี่แขกแล้วกัน”   บอกทางมาบ้านพี่แขกเป็นที่เรียบร้อย ก็กลับมาจัดแจงข้าวปลาอาหารเพิ่มเติม และแล้วน้องทิวส์ (เด็กหนุ่มไฟแรงจากเทคนิคมวกเหล็ก) ก็มาถึง

อาหารค่ำถูกจัดการไปอย่างรวดเร็ว โดยสมาชิกกว่า ๑๕ คน …. หมูและเนื้อ ถูกรวนเอาไว้ก่อนเพื่อถนอมไว้ให้อยู่ได้นานด้วยความช่วยเหลือจากพี่แน็ตอีกเช่นเคย ผักสด เครื่องปรุงต่างๆ ถูกแยกออกมาแบ่งย่อยให้ง่ายแก่การกระจายกัน ข้าวสารถูกแบ่งเป็นถุงย่อยสำหรับการหุงแต่ละครั้ง(ถุงละ ๖ ขีด) หมูและเนื้อที่รวนแล้วก็ไม่เว้น …. ประมาณเที่ยงคืน  พี่ชัช   (หนุ่มผมยาว จากเมืองตรัง) ก็ตามมาสมทบอีกคน เป็นอันว่าขาดสมาชิกที่จะมานอนบ้านพี่แขกแค่น้องอั้มคนเดียว ตั้งวงพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคน “เห่อ” สมอปูน ทั้งๆ ที่กำลังจะได้ไปอยู่แล้วเชียว ก็เริ่มสงสัยว่าทำไมน้องอั้มยังมาไม่ถึงสักที ยังไม่ทันหายสงสัยน้องอั้มก็โทรศัพท์มาบอกได้น่ารักมาก “พี่ตอนนี้ผมอยู่บ้านพี่เก่งแล้ว พี่เก่งมารับที่สถานีรถไฟ ผมนอนที่บ้านพี่เก่งก็แล้วกัน”
          รวมพลตอนเช้าอย่างรวดเร็ว  อ.นพ พี่อุ๊ พี่เก่ง พี่อั๋น         พี่สอง (สมาชิกใหม่ โดนพี่อั๋นสะกดจิตมา) พี่โก๊ะ พี่อ้อย   พี่อ๋อ  มากันแล้วอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  สัมภาระถูกลำเลียงขึ้นรถ สมาชิกทั้งหลายขึ้นประจำที่ พลขับพร้อม  ได้เวลาเดินทางสู่เขาใหญ่ … จุดแรกที่เรานัดกัน  (รวมถึงสมาชิกที่เหลือจากฝั่งปราจีนบุรี)  คือที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อพบกับหัวหนัาอุทยานฯ หลังจากนำคณะพูดคุยกับทางหัวหน้าอุทยานฯ  แล้ว การเดินทางสู่สมอปูนของเราก็เริ่มต้น
ที่ กม.๑๔ (ปากทางขึ้นสมอปูน) หัวหน้าปกและคณะเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มใหญ่ (เพื่อขึ้นไปสำรวจสมอปูนตามหน้าที่ที่ได้รับมา) เตรียมพร้อมกันเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางกันก่อนเป็นกลุ่มแรก ต่อด้วยพี่หวาน  (พี่เลี้ยงในอุดมคติ จากปราจีนบุรี) นำคณะน้องๆ ปราจีนบุรี นครนายก อันได้แก่ น้องอ้วน น้องผอม (ค่าแฝดที่ไม่เคยเรียกชื่อได้ถูกซะที) น้องติ๋ว น้องหนุ่ย น้องนกหวีด น้องโบ้ท น้องโต๋ พี่ทีม น้องเก่ง อ.ชุมพลและพี่แบซอ (ครูหนุ่มจากยะลา) เดินตามไปติดๆ แล้วคณะของเราก็ค่อยทยอยกันเข้าไป เหลือไว้สุดท้าย อ.นพ พี่แขกและผู้เขียน รอสมาชิก ๒ คนสุดท้ายที่จะไปกับเราด้วย … เมื่อ พี่แหลม (เจ้าหน้าที่อุทยานฯ) และน้องสายป่าน มาถึง สมาชิกที่เหลือรั้งท้ายก็เริ่มเดินเข้าสู่ป่า สู่ยอดสมอปูน

       ทางเดินเข้าในตอนแรกนั่นดูเหมือนแล้วจะไม่ยากเย็นเท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้ไม่ทันไร  อาการต่างๆ  ที่คิดไว้ก็เริ่มแสดงออกมา … ลานหิน แทบทุกๆ ลานหิน ขอนไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งได้ เป็นจุดพัก ความเหนื่อย ที่ไม่รู้จะรีบแสดงออกมาไปไหน ได้เป็นอย่างดี … อีกไม่ไกลแล้ว  “คลองต้มกาแฟ” จุดหมายที่นัดกันไว้ว่าจะไปพักกินข้าว กินกาแฟกัน แต่ทำไมยังไม่ถึงสักทีก็ไม่รู้ (กำลังนั่งบ่นตัวเองอยู่ในใจบนลานหินที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) … “นิม แบ่งของมาให้พี่ช่วยแบก”  เสียงพี่อุ๊ ดังมาข้างๆ ไม่รอช้า กะหล่ำปลี  ๔ หัว กับข้าวสาร ๒ ถุง ก็หายลับเข้าไปอยู่ในเป้พี่อุ๊เป็นอันเรียบร้อย … สะพายเป้เดินต่อ รู้สึกเบาขึ้นมาในทันที  “เอาน่าไม่ไกลแล้ว คลองต้มกาแฟ”

จบองก์ ๑
Nimedly

เรื่องเล่าจากเขาสมอปูน ตอนอื่น ๆ
… สมอปูน …
… กลางดง พงป่าสมอปูน …
… การเดินทาง “สมอปูน” …
… ครั้งหนึ่ง ณ สมอปูน …
… เรื่องเล่า จากสมอปูน … 

 

4 thoughts on “๒ ปี ๒ ครั้ง กับ “สมอปูน” องก์ที่ ๑

  1. เค้าเป็นคนช่วยพี่แน็ทตำเครื่องแกงทำแกงกะหรี่ด้วย ไม่อยากจะคุย แล้วก็เป็นคนทำโรตี ทีเงี้ยทำไมไม่เขียนลงไป ไอ้เจ๊กหัวเหม่งงงงงงงงงงง…..

    • เห็นหน้าพี่แน็ต ตอนแกพูดแบบนี้แล้ว … ฮา ฮา ฮา

    • ก็ไอ้พี่นิมมันบอกว่าไม่ให้หนูไปจ่ายตลาดเพราะกลัวซื้อผิด มันไม่จริงเลยนะคะ หนูซื้อของถูกนะ ก็ดี ไม่เหนื่อย นอนตีพุงรออยู่บ้าน เชอะ