..ครั้งหนึ่ง ณ สมอปูน…

“ครั้งหนึ่ง ณ สมอปูน” เป็นเพียงถ้อยคำในประโยค ประโยคหนึ่งแล้วคุณล่ะ คิดกับคำคำนี้อย่างไร ?   ถ้าคุณลองคิดดีดีว่าครึ่งหนึ่งที่คุณได้มีโอกาสมายืนในจุดที่ว่า เป็นธรรมชาติที่ยังคงเป็นธรรมชาติโดยไม่ได้รับการปรุงแต่งจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้รู้จักกับธรรมชาติแล้วสัมผัสกับมัน หัดใช้ชีวิตให้ช้าลงทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราทำ เราต้องกล้าที่จะก้าวทั้งที่ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะดีกว่าหรือแย่กว่าทางที่เราเคยเดินมาไหม ?  โลกนี้คงไม่มีอะไรที่จะให้เราได้รู้จักหากเรายังไม่ได้ทักทาย บางครั้งเราควรทำสิ่งที่เราไม่ชอบบ้าง เช่น เดินขึ้นหน้าผา เดินไปทั้งที่เรามองอะไรไม่เห็น แบกของหนัก แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนมันคุ้มค่ามากกว่าสิ่งที่เราไม่ชอบเพราะว่าสิ่งสิ่งนั้นมีคำตอบให้เราอยู่แล้วว่าทำไมเราต้องยอมทนอะไรที่เราไม่ชอบ เราทำเพื่อ…
      ทริปประจำปีของกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ สมอปูน ครับ ผมโบ๊ทครับ เป็นน้องใหม่สำหรับ กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ ได้มาทำโครงการครั้งแรกก็ที่ ผากล้วยไม้ รุ่นพี่หลายคนชอบเล่าเรื่อง สมอปูน ว่าที่ตรงนั้นน่ะ สวยอย่างงั้นสวยอย่างงี้ เห็นเมืองปราจีนทั้งเมืองเลย สวยมาก!!!  ผมก็ถามว่าจริงหรอ? สวยขนาดนั้นเลย นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการที่ทำให้อยากจะขึ้นไปที่ สมอปูน !!!
ก่อนวันขึ้น สมอปูน…. โทรหาเพื่อน (เต้ ยีนส์ แฮม โอ พี)  “เห้ย…ไปเขาใหญ่ป่ะเนี่ย ขึ้นสมอปูนกันป่าว ไม่มีคนไปเป็นเพื่อนว่ะ ไปด้วยกันดิ”  คำตอบคือ “โทษทีว่ะ ไม่ว่างว่ะ โทรชวนคนอื่นแล้วกัน ok นะโว้ย โทษที….”  เพื่อนทุกคนที่โทรหาก็ตอบกลับมาอย่างนี้ทุกคนเลย สุดท้ายก้อต้องมาคนเดียว 55+  ก็เพราะอยากมาทำไงได้!!
 วันแรก ณ ปราจีน… คำแรก!! ของวัน “อากาศดีเวอร์ครับ”  ไปรับเพื่อนที่จะร่วมเดินขึ้นสมอปูนด้วยกัน (อ้วนกับผอม) กับรุ่นพี่ที่อยู่ปราจีนครับ (พี่ทีม) ต่อจากนั้นเราก็เริ่มรวมตัวกันเตรียมเดินขึ้น สมอปูน เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. ตอนเริ่มเดินที่แรกก็ไม่คิดอะไรมากมันเป็นทางเดินป่าปรกติไม่ลำบากทางที่เดินในตอนนี้เป็นทางราบ เดินง่าย ๆ แต่ของในกระเป๋าเป้มันหนักนี่หน่า ก็เลยบ่นไปอะไรไป แต่ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ที่เดินด้วยกันเครียดเลยเดินไปเฮฮาไป พอเดินต่อไปสักพัก “เห้ย!! แล้วทางอย่างนี้จะขึ้นอย่างไงเนี่ย?” คำตอบที่ได้  “ปีนไง”  สั้นมาก  อะไรกันนี่เราต้องปีนหรอ ทางที่เจอคือชันมาก ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากจะต้องปีนอย่างเดียว ถ้าไม่ปีนก็ต้องอยู่ตรงนี้ คือต้องปีนไปพักไป ปีนจนถึงจุดสุดท้ายเพราะต่อไปก็คือสันเขาแล้ว “เย้!!” คำสั้น ๆ กับน้ำเสียงสั่น ๆ 55+ พอปีนถึงสันเขา ฝนดันตกลงมาอีก ได้แต่คิดในใจ เอาเข้าไป แต่ก็ดีอย่างหนึ่งคือเย็นสบายลมเย็นมากเข้าขั้นเจียบเลยแหละ เดินไปเรื่อย ๆ ทีนี้เดินง่ายแล้วเพราะบนสันเขาทางที่เดินเป็นทางราบ แต่อุปสรรคคือ ฝนนี่แหละมันเปียกตัวไปหมด มีโคลนด้วยแต่ไม่เป็นไรเดินต่อไปจนถึงจุดนัดพบ (คือ รอรวมตัวกันให้ครบแล้วค่อยเดินไปยังที่พัก) ๑๗.๐๐ น. – ๒๒.๓๐ น. พอมาถึง พวกเราก็รวมกันทำอาหารที่ได้มาคือ กาแฟ มาม่า ข้าวเหนียวไก่-หมู หมูปิง (อันสุดท้ายนี่ผมปิงเองเลย 55+) พอทำทุกอย่างเสร็จแล้วเวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น. ก็ออกเดินทางกันต่อ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเพราะว่ามันมืดมากเลยมองอะไรไม่ค่อยเห็นมีเพียง ท้องฟ้าและดาว ที่ขณะ นั้นรู้สึกว่า สวยมาก!! ผมว่าแค่นี้มันก็คุ้มกับค่าเหนื่อยแล้ว คือฟ้าสองสีแต่ถึงยังไง ดาวก็ยังเต็มฟ้าอยู่ดี!!  สรุปถึงที่พักเวลาก็ปาไป ตี ๒  แล้ว ง่วงจัง!! นอนก่อนนะครับ zzz
             วันที่สอง ณ สมอปูน… ตื่นมา อากาศดีกว่าวันแรกอีกเพราะตอนนี้อยู่บนเขาแล้ว ภาพแรกที่เห็นคือ เป็นลานกว้าง ๆ มีดอกไม้หลายชนิดมาก หญ้าแซมหินเต็มลานไปหมด สวยจริง ๆ ครับสมกับราคาคุยเลย ผมไม่ผิดหวังแล้วกับทริปครั้งนี้ พอไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็มาร่วมกันทำอาหาร พอเสร็จจากกินอาหารฝีมือของพวกเราเองแล้วก็เตรียมตัวเก็บช้าวของต่าง ๆ เพื่อไปอีกทีหนึ่ง พอตกเย็นก็ไปอาบน้ำที่น้ำตกเล็ก ๆ แต่ความรู้สึกนั้นสบายเนอะ!! เพิ่งอาบน้ำครั้งแรก พอเสร็จภาระกิจส่วนตัว อาจารย์นพ ได้เล่าเรื่องธรรมชาติ ประสบการณ์ ความสำคัญให้ฟัง ต่อมา พี่อ๋อ ได้ไปรู้จักธรรมชาติโดยการ สัมผัสธรรมชาติ ได้รู้จักเพื่อนที่ได้เดินมาด้วยกันมากขึ้น ได้ใช้ชีวิตให้ฃ้าลงคือคิดทบทวนสิ่งที่ทำ พอตกดึก มีการแบ่งเวรยาม ผมได้อยู่ ผลัด ๒ ครับ ตี ๒ ถึงตี ๔ พอแบ่งเสร็จก็หลับรอเวลาเลยครับ ตอนที่หลับ คุณเคยไหม?  มีใครสักคนหนึ่งห่มผ้าให้คุณ (ตอนนั้นอากาศหนาวมาก)  ขอบคุณครับที่เป็นห่วงกันไม่รู้ว่ามีใครบ้าง แต่นี่มันทำให้รู้สึกว่านี่แหละเป็นครอบครัวของผมอีกครอบครัวหนึ่งครับ!!!

       วันสุดท้าย ณ สมอปูน … ตื่นมาไปล้างหน้าแปรงฟันช่วยกันทำอาหาร พอเสร็จจากกินข้าวกันแล้ว ก็เก็บของเตรียมตัวเดินกลับ .. ก่อนกลับเราได้ไปที่จุดชมวิวกันก่อน เป็นอะไรที่พูดไม่ถูกจริง ๆ ตอนเดินลงไวแหะ เดี๋ยวลื่นลงมาบ้าง ไหลลงมาบ้าง มันก็สนุกไปอีกแบบเดินมาเรื่อย ๆ ถึงคลองต้มกาแฟก็พักกินข้าวกันพวกพี่ทำอาหารรอพวกเราครับ แล้วเราก็เริ่มเดินต่อไปจนถึงสิ่งที่คุ้นเคยครับถึงถนนแล้ว !!

 “เหนื่อยมากครับแต่คุณจะยิ้มเมื่อมีคนถามคุณว่า สมอปูน เป็นไงบ้าง?”

และนี่ก็เป็นมิตรภาพหนึ่งที่น่าจดจำมาก ๆ ครับ ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคน เพื่อน ๆ ทุกคนครับ ที่คอยดูแลซึ่งกันและกัน ขอบคุณครับ ผมคงมีโอกาสอย่างนี้อีกนะครับ..

พงศกร โหมดกุลา โบ๊ท
รักษ์เขาใหญ่!!

เรื่องเล่าจากเขาสมอปูน
สมอปูน …
กลางดง พงป่าเขาสมอปูน
การเดินทาง “สมอปูน” 

ปิดการแสดงความเห็น